ตั้งแต่ช่วงเดือน มิย. ที่ผ่านมา เห็น Trending และการแนะนำ “สุขสันต์วันโสด (Low Season)” ใน Netflix มาสักระยะแต่ยังไม่คิดจะดูสักที ทั้งๆ ที่ดูตัวอย่างหนังเวลาเลือกใน Netflix ก็สะดุดดูไป 3-4 รอบได้ เพราะดันไปคิดว่าคงเป็นหนังตลกทั่วๆ ไป ก็เดาไปว่ากลุ่มเพื่อนมหา’ลัยไปเที่ยวรีสอร์ทร้างแล้วเจอผีล่ะม้าง
แต่พอเริ่มดูจริงๆ แล้วก็ผิดคาด เพราะเป็นหนังไทยที่ใช้ได้เรื่องนึงในรอบหลายปีนี้(ที่ได้ดู)ก็ว่าได้ ใช้ได้ที่นี้ก็คือ ไม่ถึงกับดีเลิศ แต่ก็ไม่ได้แย่ชนิดที่ว่า ดูไปไม่ถึงกลางเรื่องแล้วปิดหนีไปเลยแบบไม่สปาร์คจอย (คือแม่งเบื่อนั่นแหละ 5555) เท่าที่นึกออกล่าสุดที่เจอก็เรื่อง “ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก…รักมั้ยลุง (Heartbeat)” ที่ เคน ธีรเดช แสดงนั่นล่ะครับ
ความดีของหนังเรื่องนี้คือ งานภาพ ที่นำเสนองานภาพออกมาได้สวยดูเป็นธรรมชาติและรู้สึกถึงการปรุงแต่งได้น้อยมาก (จริงๆ การปรับภาพคงทำเยอะล่ะครับ แต่ทำให้ออกมาได้รู้สึกไม่ได้เว่อร์ กำลังดี) ยิ่งภาพมุมสูง ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งปกติผมจะเกลียดภาพมุมสูงจากภาพยนตร์หรือละครไทยมาก ถามว่าทำไมถึงเกลียด… ก็เพราะชอบนำเสนอภาพที่แบบ ค่อยๆ บินขึ้นไปแบบให้รู้ว่าใช้โดรนถ่ายแบบจงใจยังไงบอกไม่ถูก ดูแล้วรู้สึกไม่เนียนตา ไม่เป็นธรรมชาติ แต่เรื่องนี้ทำออกมาแบบปกตินี่ล่ะ ไม่ต้องเน้นหวือหวา บินไปเรื่อยๆ ให้ Subject มันเล่าภาพของมันเอง ขอชมเชยเลยครับในจุดนี้
ความดีที่สอง คือ นักแสดงนำ ชาย – หญิง ที่รับบท พุธ (มาริโอ้ เมาเร่อ) และ หลิน(พลอย-พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) นี่แหละที่แสดงออกมาได้เป็นธรรมชาติมาก สำหรับมาริโอ้ พักหลังๆ ก็คือมาตรฐานของเค้าล่ะครับ ตลกธรรมชาติในแบบของตัวเอง ส่วน พลอย นั้น แม้ไม่ได้สวยเว่อร์ระดับนางเอกดัง แต่บางอย่างแสดงออกมาให้รู้สึกถึงความมีเสน่ห์ พอสองคนนี้ประคบคู่กันปุ๊ป รับ-ส่งกันเป็นอย่างธรรมชาติจริงๆ ดูๆ แล้วกำลังน่ารัก กุ๊กๆ กิ๊กๆ แบบพอดีๆ
ความดีที่สาม คือ บทภาพยนตร์ แม้จะเป็นบทหนังที่เชยๆ แบบหนังรักที่สามารถพบเห็นได้ทั่วๆ ไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หนังเรื่องนี้ทำให้การรับชมน่าเบื่อในระหว่างเรื่องซะที่ไหน เล่าเรื่องได้ออกมาแบบที่ว่า ไม่รู้สึกถูกยัดเยียดให้เชื่อว่า พุธ และ หลิน นั้นชอบกันนะเว้ย รู้สึกว่าทำออกมาได้ดีเลยในจุดนี้ ส่วนนึงก็เพราะเคมีของนักแสดงด้วยแหละ ที่เลือกมาได้คู่ที่ลงตัว …แสดงกันได้ดีเทียบเท่า กวน-มึน-โฮ ส่วนจุดพลิกผันของเรื่อง ก็ปล่อยออกมาได้จังหวะกำลังพอดิบพอดี จะมาเสียก็นิดเดียวในส่วนของ ตัวละครสมทบ ที่รู้สึกไม่จำเป็นต่อเส้นเรื่องเลย อย่าง “นุ่น” (โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร) กับ “วิทยา” (นิกกี้-ณฉัตร จันทพันธ์) แล้วก็การตัดต่อบางซีนของเรื่อง ที่สามารถลากยาวเรียกอารมณ์ได้อีก แต่ดันตัดแล้วเปลี่ยนซีนไปดื้อๆ ซะอย่างงั้น
แต่รวมๆ แล้วเป็นหนังฟิลกู๊ดที่ดีเกินคาด หรือ เพราะไม่ได้คาดหวังก็ไม่รู้นะ แต่เครดิตส่วนใหญ่จะยกให้นักแสดงหลักนั่นล่ะครับ ที่แบกหนังทั้งเรื่อง ให้คนดูติดตามได้จนจบแบบไม่เบื่อ แถมเพลงประกอบภาพยนตร์เลือกใช้อย่างมีรสนิยมและเข้ากับบรรยากาศเสียด้วยครับ
เรื่องย่อ (จากเว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม)
เคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่าทำไมเราถึง “โสด”
บางคนโสดเพราะขี้บ่น บางคนโสดเพราะเจ้าชู้ บางคนโสดเพราะอินดี้
แต่กับ “หลิน” (พลอย-พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) เธอโสดเพราะ “เห็นผี”
เมื่อหัวใจโดนเทก็เลยเซไปหาทางเยียวยา…
“เริ่มที่ไหนจบที่นั่น” นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ “หลิน” ขอลุยเดี่ยวจัดทริปรักษาแผลใจ ณ กิ่วแม่ปาน จนได้เจอกับ “พุธ” (มาริโอ้ เมาเร่อ) นักเขียนบทไอเดียตันที่ทั้งรักคุด-งานสะดุดจนต้องออกมาหาแรงบันดาลใจเพื่อโปรเจกต์หนังผีเรื่องใหม่ของเขาที่จำเป็นต้องใช้ “คนเห็นผี” มาช่วย
การผจญภัยในช่วงชีวิตโลว์ๆ ของทั้งสองจึงเริ่มขึ้น กลางบรรยากาศหุบเขาในโฮมสเตย์รวมพล “คนเพิ่งโสด” แบบไม่ได้นัดหมาย ทั้ง “นุ่น” (โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร), “วิทยา” (นิกกี้-ณฉัตร จันทพันธ์), “พี่อ้อม” (อ้น-ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์), “พี่โอม” (โจ๊ก-อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ) ที่พวกเขาจะขอมาเปลี่ยนช่วงฤดูโลว์ให้กลายเป็นฤดูเรา จะเปลี่ยนความเศร้าให้กลายเป็นความรัก…
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ