หลังจากตำรวจ ตชด ในคราบของเจ้าหน้าที่นำกำลังสลายการชุมนุม และ ไล่ล่าผู้ชุมนุมที่ล่าถอยไปแล้วนั้น
คงกะว่าหลังประยุทธ์ขู่, แสดงพละกำลังให้เด็กมันเห็น แล้ววันถัดไปก็คงกลัวไม่กล้าออกมาแสดงพลังกันอีกแล้ว หรือถ้ามาจริงก็คงออกมากันน้อย เพราะที่ผ่านมาฝั่งความคิดแบบดั้งเดิมนั้นจะคิดไปว่า ขาดแกนนำแล้วคนคงลดน้อยลง
แต่ผิดคาดไปอีกนั่นแหละ เจ้าหน้าที่ยังคงตามหลังผู้ชุมนุมอยู่หนึ่งก้าวอยู่เสมอ เพราะทุกคนคือแกนนำ เลยคาดเดาไม่ได้ว่าจะรวมตัวกันที่ไหน เมื่อไหร่
สุดท้ายก็ประกาศออกมา รวมตัวกันที่ ห้าแยกลาดพร้าว , อดุมสุข และ บีทีเอสวงเวียนใหญ่
เจ้าหน้าที่จัดขบวนกันแทบไม่ทัน แถมยังได้ข่าวว่ามาไม่ถึงม็อบเพราะรถติดอยู่สะพานควาย
นี่ยังไม่รวมการชุมนุมในแต่ละจังหวัดที่กระจายกันไปตามหัวเมืองใหญ่ๆ อย่าง นนทบุรี, โคราช หรือ เชียงใหม่ อีก
อย่างที่บอกสิ่งที่คณะราษฏรทำอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่การมาฟังปราศรัย ไอ้เรื่องๆ ที่ปราศรัย คนที่มาเค้าไม่ต้องฟังก็ได้ เค้าอยากมารวมตัวให้เห็นถึงความไม่เห็นด้วยต่อรัฐเท่านั้นเอง
เค้าไม่เห็นด้วยกันขนาดไหน ก็ลองคิดเอาเอง ถึงขนาดเด็กช่างหลายสถาบัน ที่มีเรื่องตีรันฟันแทงกันมาตลอดมารวมพลังกันเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน ชนิดที่ว่าไม่เคยเห็นในม็อบที่ไหนมาก่อนเลย
อย่างที่บอกม็อบมันไม่มีแกนนำ ไม่รู้ต้องไปดีลกับใคร มันยากตรงนี้ ยากในการจัดการของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ยังยากในความต้องการของผู้ชุมนุมเดียวกันอีก
ก็อยากฝากให้ห้ามปรามกันดีๆ พูดกันให้เข้าใจถึงจุดยืน ซึ่งบางครั้งเลือดวัยรุ่นมันร้อนอ่ะครับ พร้อมแสดงออกได้ทุกเมื่อ อย่าเพิ่งไปเหยียดหยามผลักพวกเค้าออกไปเป็นศัตรูอีกเลย
อย่างน้อยๆ มีสายแท้งค์ๆ ไว้ก็ยังดี หากตอนไหนที่อยู่ดีดีเจ้าหน้าที่รัฐมาประชิดตัว ก็มีพวกเขาเหล่านี้แหละ ที่ช่วยยื้อเวลา ให้เด็กๆ ผู้หญิง ออกไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยได้
พยายามมองข้อดีกันไว้ให้มากกว่าข้อเสียนะครับ
ช่วยกันเป็นหูเป็นตาพวกที่จะมาสร้างสถานการณ์กันก็ดี อย่าไปประมาทพวกหน่วยงานรัฐ ถ้ามันคิดจะทำอะไรมันก็ทำ ไม่เคยแคร์สายตาโลกหรอก ความอำมหิตของพญามัจจุราชนั้นน่ากลัวเสมอจริง ๆ นั่นแหละ
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าชมเชย และ แปลกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่ต้องสื่อสารกันมาก คือความเป็นระเบียบ ไม่ต้องมีรถขยายเสียงดังๆ แต่ใช้วิธีการสื่อสารบอกต่อๆ กันไป จัดระเบียบแถว ส่งหมวกกันน็อคไปยังแนวกันชน การเปิดทางให้รถพยาบาลผ่าน พวกเค้าทำกันได้ดีจริงๆ
แม้ล่าสุดได้ข่าวว่า ไมค์ ระยอง ได้ถูกเจ้าหน้าที่รวบตัวไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ใช่ว่าม็อบวันที่ 18 ตุลาคม จะหยุดนิ่ง ติดตามช่องทางการสื่อสารกันไว้ดีๆ นะครับ
แต่สิ่งที่โกรธไม่แพ้จับไมค์ นั่นคือการออกหมายจับหมอทศพร ที่คอยดูแล คอยปฐมพยาบาลผู้ชุมนุม มันน่าแปลกดีในการออกหมายจับนายแพทย์ครั้งนี้ ที่ดูเหมือนว่าเค้าเข้าไปดูแลมากกว่าร่วมชุมนุมเสียอีก
ฝากเป็นกำลังใจให้ผู้ร่วมชุมนุมทุกท่าน ฝั่งรัฐไม่สามารถคาดเดาการผู้ชุมนุมของเราได้ แต่เราก็ไม่สามารถคาดเดาความอำมหิตของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐด้วยเช่นกัน ผู้แลคนข้างๆ ช่วยกันเป็นหูเป็นตากันดีๆ นะครับ
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ