ไม่ได้บันทึกเรื่องการชุมนุมเลยหลังจากที่ไปยื่นหนังสือให้ประยุทธ์ลาออกที่ทำเนียบ โดยกำหนดเวลาให้ลาออกนั้น
นอกจากเรื่องยุ่งๆ ไม่ได้มาบันทึกไว้ ก็เป็นเพราะเว็บร่วงเพราะ Malware นั่นหละครับ
ถ้านับตั้งแต่วันที่ 21 จนจบเดือนตุลา และ รวมเดือนพฤศจิกายนไปอีก 4 วันนั้น เหตุการณ์สำคัญๆ รายวันก็แทบจะเหมือนทุกๆ วันที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีข้อดีที่ผู้ร่วมอุดมการณ์ยังไม่เหนื่อยล้าเท่าไหร่
แม้จะเปิดหน้าไพ่เล่นกันแล้วจากทั้งสองฝั่งคู่ขัดแย้ง แต่ก็ดูแล้วไม่มีทีท่าว่าจะบรรจบลงกันได้ตรงไหน โดยฝั่งคณะราษฎรมีข้อเรียกร้องที่ไม่เคยมีใครร้องขอมาก่อนในรอบหลายสิบปี
และฝั่งรัฐบาลเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีความจริงใจในการยอมถอยเพื่อหาทางออก กลับกันมีแต่ความกลับกลอกซ่อนไว้ และเตะถ่วงอย่างบอกไม่ถูก
สิ่งที่บอกว่ากลับกลอกนั้นคือ เปิดสภาเพื่อแก้ปัญหา แต่การแก้ปัญหาที่ไม่สามารถเอาต้นเหตุของปัญหา หรือ ส่วนที่ทำให้เกิดปัญหามาพูด ก็ไม่รู้ว่ามันจะแก้ปัญหาได้ยังไง
เท่านั้นยังไม่พอ ดูเหมือนเป็นการเปิดสภาเพื่อใส่ร้ายผู้ชุมนุมเสียด้วยซ้ำ ถ้าอยู่ในยุคที่การสื่อสารไม่รวดเร็วเท่าวันนี้ เหล่าผู้ชุมนุมคณะราษฏรและผู้นำชุมนุมคงใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากกว่านี้แน่ๆเลย God Bless Internet!
แต่นี่ก็ใช่ว่า #เพื่อนเรา จะสุขสบายนะ ก็ยังโดนยัดคดีเป็นว่าเล่นไปกว่า 80 คดี โดนคดีจริง ติดคุกจริง ไม่มีสแตนด์อิน เทียบกับฝั่ง กปปส. แล้ว นอกจากมือปืนป็อปคอร์นแล้วที่นึกออก นอกนั้นดูเหมือนสุขสบายกันแบบไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเลยมั้ง
สองมาตรฐานไหมล่ะประเทศนี้
ยิ่งถ้าเทียบปีเดียวกัน อย่าง “เสี่ยโป้” โดนคดีทะเลาะวิวาทและพยายามฆ่า ได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี หากมองด้วยใจที่เป็นธรรม คดีที่แกนนำคณะราษฏรโดนเมื่อเทียบกับเสี่ยโป้แล้วผมว่าน่าจะมองกันออกนะครับ
แถมสังคมที่เชียร์ฝั่งรัฐบาลยังวิปลาสเข้าไปอีก หลังจากเสี่ยโป้ที่โดนคดีพยายามฆ่านั้น กองเชียร์ยังเข้าไปขอถ่ายรูป ปะหนึ่งว่าเป็นฮีโร่ของพวกเค้า พร้อมกับคำพูดเชียร์ว่า “เสี่ยโป้สู้ๆ” แหม่…ถ้ามองอย่างกลางๆ จะมองว่าเสี่ยโป้โดนยัดคดีที่ไม่เป็นธรรมก็เลยเชียร์สู้ๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน
แต่ #เพื่อนเรา กลับได้รับแต่ความย่ำยีเสียอย่างนั้นน่ะสิ เลือกกันย่ำยีเป็นขบวนการอย่างกับจัดตั้งเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะผ่านทาง รัฐสภา, ปฏิบัติการ IO, ส.ส. และผู้สนับสนุน ออกมาดีเบตกับแกนนำผ่านรายการทีวี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกมาดีเบตนั้น ฟังดูเนื้อหาและแนวคิดฝั่งนั้นแล้วเหนื่อยใจ เค้าไม่ได้สนข้อมูลหรือสิ่งใดที่จะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติมากกว่าผลประโยชน์ฝั่งตัวเองเลย เค้าแค่ต้องการมาสื่อสารให้กับคนที่ไม่เห็นด้วยกับผู้ชุมนุมให้กล้าแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยมากยิ่งขึ้นเท่านั้น…ปลุกระดมนั่นแหละ สังเกตุแต่ละคนที่ออกมาดีเบตกับ มายด์, กุ๊ก, ฟอร์ด, ไผ่ ดาวดิน มีแต่ลูกบ้าทั้งนั้น เป็นสิ่งที่ตอกย้ำผมไม่เข้าใจรสนิยมของกองเชียร์ฝั่งนี้เสียด้วยซ้ำ
ยังไม่หมด…”ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน” ที่ดูชื่อแล้วน่าจะช่วยประชาชนให้ได้รับความยุติธรรมใช่มั้ย ? แต่เปล่าเลย…กลับใส่ร้ายฝั่งผู้ชุมนุมเพิ่มเติม ยิ่งตอกย้ำการไร้ทางออกเข้าไปอีก
ไม่แปลกใจหรอก ที่กลุ่มคณะราษฏรยังยืนยันไม่ลดเพดาน จะเดินหน้าประเทศไทยได้แบบแฟร์ๆ ต้องตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อเท่านั้นที่ดูเป็นทางออกของประเทศที่ดีที่สุดของฝั่งคณะราษฏร
แต่สิ่งที่หนักใจของเรื่องนี้ที่ไม่รู้เลยว่าจะจบลงยังไง ยิ่งมาเจอปฏิบัติการดึงมวลชน “เล่นใหญ่รัชดาลัย” ในสมรภูมินี้ที่ดูแล้วหนักหนาจริงๆ
เอาใจช่วยครับ!!!
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ