ฉลาดเกมส์โกง เดอะซีรี่ส์ สร้างจากภาพยนต์ที่ประสบความสำเร็จเมื่อปี 2560 ในชื่อเดียวกัน ซึ่งในตอนนั้นในเวอร์ชั่นภาพยนต์สามารถทำเงินได้สูงถึง 113 ล้านบาทในระยเวลา 6 สัปดาห์ และถือว่าเป็นภาพยนต์ทำเงินสูงสุดของปีนั้นเช่นกัน คว้ารางวัลได้มากที่สุดบนเวทีรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ไปถึง 12 รางวัล
รวมถึงกวาดรางวัลและรายได้เพิ่มเติมได้อีกจากต่างประเทศอีกมากมาย น่าจะเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความประสบความสำเร็จของภาพยนต์นี้ได้เป็นอย่างดีเลย
ประสบความสำเร็จขนาดนี้ มาทำเป็นซีรี่ยส์(ละคร)จะไปทางไหน?
ก่อนที่จะมาเริ่มดูจริงๆ จังๆ ใน NETFLIX ก็หลังจากจบออกอากาศในช่อง ONE ไปได้หลายเดือน ในช่วงที่ออนแอร์อยู่นั้น ก็ได้ยินกระแสอยู่บ้าง ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะคิดว่ารู้เนื้อเรื่องไปหมดแล้ว
พอมาเริ่มดูได้แค่ EP แรกเท่านั้นแหละ รู้สึกเลยว่าดีกว่าที่คิดไว้จริงๆ และการเดินเรื่อง ที่แม้ว่าจะรู้เนื้อเรื่องอยู่บ้างอยู่แล้วนั้น ไม่ได้ทำให้อรรถรสลดน้อยลงแต่อย่างใด
กลับกันการแสดงของ จูเน่ BNK48 นับว่าเป็นนักแสดงคลื่นลูกใหม่ของวงการและค่ายนี้เลยก็ว่าได้ รับบท “ลิน” ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ สื่อสารตัวละครออกมาได้ดีกว่าเว่อร์ชั่นภาพยนตร์ที่ “ออกแบบ – ชุติมณฑน์” ทำไว้เสียอีก
และลูกชายของ เจ-เจตริน อย่าง “เจ้านาย – จินเจษฎ์” แม้จะเล่นละครเป็นเรื่องแรกๆ การแสดงอาจจะยังไม่เนียนตาเท่า “จูเน่” แต่ “เจ้านาย” ก็ถือว่าทำออกมาได้เป็นอย่างดี
ส่วนอีกตัวละครหลักอีก 2 คนอย่าง “เกรซ” ที่รับบทโดย “นาน่า ศวรรยา” กับ “พัฒน์” ที่รับบทโดย “ไอซ์ – พาริส” ไม่ได้ดีเด่นแต่ก็ไม่ได้แย่ แค่ว่าไม่มีอะไรให้น่าจดจำเท่าไหร่เท่านั้นเอง รวมถึงตัวละครสมทบก็ดูแล้วไม่ได้รู้สึกขัดลูกกะตาหรือความรู้สึกเท่าไหร่
ในส่วนของเนื้อเรื่อง ทำออกมาได้กระชับไม่ยืดเยื้อ หลายฉากตั้งใจทำออกมาได้ลุ้นระทึกดีแม้จะใช้แค่ฉากเรียบๆ ง่ายๆ ก็ตาม รวมถึงบางอย่างทำออกมาได้ “เมคเซ้นท์” กว่าในเว่อร์ชั่นภาพยนตร์อีกด้วย และสิ่งที่ชอบมากในละครเรื่องนี้คือ การพัฒนาเนื้อเรื่องและบทของตัวละครหลัก
แต่ถ้าจะให้ติ ก็จะมีบางอย่างที่บทละครพยายามจะอุดช่องโหว่ของเรื่อง โดยหาเหตุผลมาเติม แต่เหมือนยิ่งเติมจะยิ่งโหว่มามากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรจนขนาดรู้สึกว่าไม่ไหวหรือรับไม่ได้ รวมถึงตอนท้ายทำออกมาได้ดรอปลงไปพอควร
แต่ก็นับว่าเป็นซีรี่ส์หรือละครไทย ที่มีคุณภาพเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าเป็นเรื่องของ เนื้อหา, บทละคร, นักแสดง และ ฉากในละคร ซึ่งดูแล้วลงทุนเพื่อความตั้งใจออกมาให้เนี๊ยบจริงๆ
เนื้อเรื่องย่อ
จากจุดเริ่มต้นการโกงข้อสอบในห้องเรียน.. จะลุกลามบานปลาย จนกลายเป็นการโจรกรรมข้อสอบระดับประเทศ พวกเขาเหล่านี้ไม่ใช่แค่นักเรียนมัธยมแต่คือตัวแทนที่สะท้อนการโกงในทุกระดับชั้นของสังคมไทย
ลิน (จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน) เด็กอัจฉริยะที่โกงเพื่อแก้แค้นโรงเรียน หวังเอาคืนค่าแป๊ะเจี๊ยะ ที่พ่อ (แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) จ่ายให้กับผอ. (อุ๋ม-อาภาศิริ จันทรัศมี), แบงค์ (เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน) เด็กเนิร์ดที่กตัญญูต่อแม่ (นก-รัชนก แสงชูโต) แต่ต้องโกงเพราะโชคชะตากลั่นแกล้ง, พัฒน์ (ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต) ลูกเศรษฐีที่โกงเพราะความกดดันจากครอบครัวที่มีพ่อ (วิลลี่ แมคอินทอช) เป็นจอมบงการ และ เกรซ (นาน่า-ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์) เด็กสาวที่ยากจะคาดเดาเหตุผล ว่าเธอโกงเพราะคล้อยตามเพื่อน เพื่อคนที่เธอรัก หรือเพื่อตัวเองกันแน่
การันตีความดราม่าที่แตกต่างและหลากหลายจากเวอร์ชันภาพยนตร์ ทั้งดราม่าครอบครัวระหว่างลินกับแม่ (ออร์แกน-ราศี ดิศกุล ณ อยุธยา) ที่ทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ดราม่ารัก/แค้นของคู่ลิน-แบงค์ และคู่ของพัฒน์-เกรซ ดราม่าด้านมืดของธุรกิจ “สอบแทน” ที่มีพี่มิวสิค (นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) เป็นนายหน้า ติวเตอร์จอมเจ้าเล่ห์ และห้ามพลาดกับบทสรุปที่แตกต่างจากเวอร์ชันภาพยนตร์ เพราะการโกงข้อสอบของพวกเขาจะอาจหาญและท้าทายจนกลายเป็นอาชญากรรมระดับประเทศ
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ