หนังจากผู้กำกับดัง Danny Boyle ตั้งแต่ปี 2002 แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ดูสักที แต่ภาคต่อของเรื่องนี้อย่าง 28 Weeks Later (2007) ของผู้กำกับชาวสเปนนั้นดูไปหลายรอบมาก ตื่นเต้นกับซอมบี้วิ่ง 4×100 ที่ทำเอาหลอนไปทุกครั้งเหมือนกัน แต่นั่นแหละเวลาล่วงเลยมา 18 ปี เพิ่งจะได้ดูภาคเริ่มต้นซะที
ตอนเปิดดูใน Netflix ครั้งแรก คิดว่าอินเตอร์เนตที่บ้านมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ทำไมภาพไม่ชัด คือว่า บางทีถ้าเน็ตเดี้ยงๆ ทาง Netflix จะปรับความชัดของภาพตามความเร็วเน็ตน่ะครับ นี่ถึงขนาดต้องไปรีเซ็ตเร้าเตอร์เลยทีเดียว แต่ก็พบว่ามันไม่ใช่ปัญหามาจากอินเตอร์เน็ตแล้วล่ะ
แต่มันเป็นความตั้งใจของผู้กำกับที่ต้องการทำภาพของหนังออกมาเป็นอย่างนี้นั่นเอง คือดูแล้วภาพแย่มากถ้าเทียบกับหนังปี 2002 อารมณ์ในภาพเหมือนเราดูมิวสิคัลฟิล์ม The Wall – Pink Floyd เมื่อ 38 ปีที่แล้ว หรือมิวสิควิดีโอยุค 70, 80 ยังไงยังงั้น
พอไปดูต้นทุนสร้างของหนังเรื่องนี้เท่ากับ $8 ล้าน ก็รู้เลยว่าหนังนี้มันหนังต้นทุนต่ำนี่นา ดารานักแสดงก็ใช่ว่าจะชื่อดัง แม้พระเอกคือ Cillian Murphy แต่ก็เข้าใจได้ว่าตอนนั้นเค้าน่าจะยังไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับปัจจุบัน
ด้วยงานภาพใช้กล้อง VDO Digital รุ่นบุกเบิก Canon XL-1 ซึ่งว่ากันว่ามันเล็กเกินไปที่จะมาถ่ายทำเป็นภาพยนตร์โดยเฉพาะบนจอใหญ่ๆ ซึ่งภาพมันก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละครับ
แต่ข้อดีคือได้ดูหนังแบบอารมณ์เหมือนดูหนังสารคดี ทำให้รู้สึก “เรียล” ดีเหมือนกัน
ส่วนเนื้อเรื่อง หากตั้งความหวังไว้ว่าลุ้นระทึกกับเหล่าซอมบี้เหมือนใน 28 Weeks Later ก็คงต้องบอกว่าอาจจะผิดหวังได้นะครับ เพราะหนังไปเน้นในจุดเนื้อเรื่องการเอาตัวรอดในวิกฤตินี้ในมุมมองดราม่ามากกว่าแอ็คชั่น
และแอบคิดว่า The Walking Dead น่าจะได้รับแรงบันดาลใจไปไม่น้อยเช่นกัน
การแสดงของนักแสดงก็ดูธรรมดาๆ และ บทสนทนาในหนังไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำเท่าไหร่ เลยเดาว่าน่าจะเป็นความแปลกใหม่ในการนำเสนอเรื่องราวของซอมบี้ในยุคนั้น รวมถึงการแสดงให้เห็นการทำหนังทุนต่ำให้ประสบความสำเร็จ อย่างที่เคยทำได้กับเรื่อง Trainspotting ในปี 1996 ที่ใช้ทุนสร้างเพียง 1.5 ล้านปอนด์ แต่ทำเงินได้ £48 ล้าน หรือ $72 ล้าน กันเลยทีเดียว
รางวัลที่ได้รับ
- Best Horror Film (2003 U.S. Academy of Science Fiction, Fantasy & Horror Films – Saturn Award)
- Best British Film (Empire Award)
- Danny Boyle (Grand Prize of European Fantasy Film in Silver)
- Best Director — Danny Boyle (International Fantasy Film Award)
- Best International Film — Danny Boyle (Narcisse Award)
- Best Breakthrough Performance — Naomie Harris (Black Reel)
- Best Cinematographer — Anthony Dod Mantle (European Film Award)
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ