Babel เป็นภาพยนตร์แนวดราม่าที่ออกฉายในปี 2006/2549 กำกับโดย Alejandro González Iñárritu และเขียนบทภาพยนตร์โดย Guillermo Arriaga ร่วมกับผู้กำกับ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวสี่เรื่องราวของสี่ครอบครัวที่เกี่ยวพันกันใน โมร็อกโก, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ที่มีกำแพงด้านการสื่อสารที่ทำให้ไม่เข้าใจกัน ความแตกต่างทางวัฒนธรรม และผลของการกระทำบางอย่างซึ่งเกี่ยวเนื่องกันทั้งหมดของทุกเรื่องราวในหนังหนึ่งเรื่อง
แม้หนังจะเล่าตัดไปมาระหว่าง 4 เรื่องราว 4 ประเทศ แต่โครงสร้างของภาพยนตร์เป็นแบบสามองก์ ด้วยการแนะนำเรื่องราวสี่เรื่องที่สัมพันธ์กัน การเผชิญหน้าประกอบด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละเรื่อง และการแก้ปัญหาประกอบด้วยผลพวงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนัง ซึ่งตอนนั้นดูครั้งแรกในช่วงปีหนังที่ออกนั่นแหละ ก็รู้สึกว่าทำออกมาได้ดีอยู่นะ แต่มันเอื่อยๆ ไปหน่อย พอมาดูครั้งที่ 2 ใน NETFLIX กับเวลา 17 ปีให้หลัง รู้สึกว่าดูสนุกกว่าดูครั้งแรกเยอะเลย
ด้วยเนื้อเเรื่องที่ทำทุกคนเชื่อมโยงถึงกัน ที่แบบมาจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันและพูดภาษาต่างกันก็ตาม แต่การกระทำของเราสามารถส่งผลกระทบบางอย่างต่อผู้อื่น แม้กระทั่งผู้ที่ห่างไกลจากเราจนเราแทบจินตนาการไม่ออกก็ตาม
การใช้เรื่องราวที่หลากหลายในเรื่องนี้ทำให้เห็นว่าการกระทำของตัวละครหนึ่งตัวสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้อื่นได้อย่างไร แม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์เริ่มแรก แต่เรื่องราวยังแสดงให้เห็นถึงวิธีที่การสื่อสารและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ที่สามารถนำไปสู่ความเข้าใจผิดและความขัดแย้งได้
ตัวอย่างเช่น เรื่องที่เกิดในโมร็อกโก การตัดสินใจของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นในการมอบปืนไรเฟิลให้ไกด์ท้องถิ่นและปืนนั้นไปอยู่ในมือเด็กเลี้ยงแพะที่ขาดทั้งวุฒิภาวะและการศึกษา ซึ่งท้ายที่สุดแล้วนำไปสู่เหตุการณ์ที่น่าเศร้า รวมถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมระหว่างนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น อุปสรรคด้านภาษา มีส่วนทำให้เกิดความเข้าใจผิดและโศกนาฏกรรมในที่สุด
ในญี่ปุ่น เราจะเห็นครอบครัวของยาซุจิโระและลูกสาววัยรุ่นของเขาจิเอโกะ ที่หูหนวกเป็นใบ้และต้องอยู่ในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่เผชิญกับเรื่องการฆ่าตัวตายของแม่ ที่น่าจะทำให้จิเอโกะรู้สึกโดดเดี่ยวและตัดขาดจากผู้คนรอบข้างรวมถึงพ่อของเธอด้วย เรื่องราวของจิโอโกะเป็นความท้าทายในการสื่อสารและความเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการความรักและเป็นที่ยอมรับแต่ไม่สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ง่ายอย่างจิเอโกะ
และในเม็กซิโก/สหรัฐอเมริกา เราได้เห็นเรื่องราวของอมีเลียแม่บ้านที่ดูแลลูก 2 คนของ ริชาร์ด และ ซูซานที่ไปเที่ยวอยู่ในโมร็อกโก และแล้วเหตุการณ์นำพาให้อมีเลียตัดสินใจพาเด็กๆ ไปงานแต่งงานของลูกชายในเม็กซิโก เมื่อเธอพยายามจะข้ามพรมแดนกลับมา ก็พบปัญหาในการเข้าเมือง ซึ่งโครงเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานและความยากลำบากที่ถูกมองว่าเป็นคนนอกของสังคม (แรงงานต่างด้าว)
สรุปแล้ว “Babel (อาชญากรรม / ความหวัง / การสูญเสีย)” เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องแบบซับซ้อนหลายสถานที่และไม่ลำดับเวลาก็จริง แต่ตัดต่อออกมาได้ดี จนไม่ได้รู้สึกว่าดูยากหรือจะทำให้รู้ว่าจะดูไม่รู้เรื่องแต่อย่างใด การดูเรื่องนี้ทำให้ตระหนักถึงการสื่อสารระหว่างกัน วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน และโศกนาฏกรรม เล่าผ่านโครงเรื่องที่หลากหลายในส่วนต่างๆ ของโลกด้วยการถ่ายทำและตัดต่อที่รู้สึกเลยว่าปราณีตเป็นอย่างมาก เชื่อเลยว่าจะสามารถสร้างประสบการณ์การดูหนังและสะเทือนอารมณ์จากการชมเรื่องนี้ได้อย่างลึกซึ้งเลยทีเดียว
โน๊ตที่จิเอโกะมอบให้นักสืบเขียนว่าอะไร?
ในหนังนั้นมองไม่ชัด และไม่มีเฉลยเสียด้วยซ้ำ แต่มีคนมาถอดออกมาและเป็นภาษาอังกฤษให้ แต่ก็ไม่ได้เห็นทุกคำ ดังนั้นคำที่แปลไม่ออกจึงถูกแทนที่ด้วย [EDGE] ไว้ ต้องลองจินตนาการใส่ทำลงไปดูนะครับ
. . . I wanted [EDGE] . . . myself [EDGE] . . . that’s why [EDGE] . . . connected [EDGE] . . . that is [EDGE] . . . although I cannot [EDGE] . . . I have to find out [EDGE] . . . message from my mother [EDGE] . . . I was not sure if I was loved by my mother [EDGE] . . . but that’s not the case . . . [EDGE] thank you.
ที่มา : imdb.com
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ