เพิ่งเปิดดูหนังนอกกระแสจากฝรั่งเศสใน Netflix แบบ Random แล้วก็พบว่าหนังเรื่องนี้พาตัวเองดูได้จนเลย หนังที่เป็นแอนิเมะชื่อว่า “I Lost My Body” (J’ai perdu mon corps) ชื่อไทย ร่างกายที่หายไป บอกได้เลยว่ามันเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สวยดูมีเอกลักษณ์และเข้าถึงอารมณ์มากที่สุดเรื่องหนึ่งที่เคยดูมาเลย เนื้อเรื่องจะเราตามติดโครงเรื่องสองเส้นเรื่องที่มาบรรจบกันในตอนท้าย เรื่องนี้กำกับโดย Jeremy Clapin และสร้างจากนวนิยายเรื่อง Happy Hand ของ Guillaume Laurant (ผู้ที่ร่วมเขียนบนจากหนังรางวัลปี 2001 เรื่อง Amélie เอมิลี่ สาวน้อยหัวใจสะดุดรัก)
แม้จะเป็นหนังนอกกระแส แต่บอกได้เลยว่าดูได้ไม่ยาก จังหวะในหนังก็ค่อนข้างโอเคเลย ไม่มีจังหวะยืดยาดหรือฉากติสท์ๆให้ปวดหัว โดยเส้นเรื่องแรกติดตามการเดินทางของมือที่ขาดเดินได้เหมือน Thing(ธิง) จากซีรี่ยส์ Wednesday หรือ Addams Family ขณะที่มืออันนี้พยายามหาทางกลับไปหาเจ้าของ “นาโอเฟล” เราจะได้เห็นการเดินทางของมือที่ต้องผ่านอุปสรรคและอันตรายต่าง ๆ ไปทั่วเมืองในฝรั่งเศส(น่าจะเป็นในช่วยยุค ‘90s) ส่วนเส้นเรื่องที่สอง เป็นการย้อนอดีตที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของหนุ่มเหงานาโอเฟลเริ่มตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน มันแสดงให้เห็นว่าเขาสูญเสียมือไปได้อย่างไร และอะไรเป็นแรงผลักดันให้เขาไล่ตามความหลงใหลในงานช่างไม้
จนเรื่องมาถึงในตอนจบจะพบเจอความรู้สึกทั้งความขมขื่นปนหวานไปในตัว รวมถึงความคลุมเครือการมีชีวิตอยู่ของนาโอเฟลนั้น ก็ไม่สามารถชี้ชัดว่าชะตากรรมนั้นเป็นยังไง อยากจะให้แปลความหมายหลังดูก็คงคิดว่าหนังเรื่องนี้คงอยากจะสื่อถึง “การยึดติดในอดีต” อาจทำให้เราหลงทางก็ได้
อดีตนาโอเฟลนั้นขมขื่นและทำให้ชีวิตเค้านั้นดูหลงทางไร้จุดหมายกว่าที่ควรจะเป็น เพราะการสูญเสียแม่ในอดีตและวิธีการที่เค้าเข้าหา “กาเบียล” อาจทำให้เค้าโทษตัวเองทำให้ชีวิตมันเป็นอย่างนี้ รวมถึงอดีตของ “มือนาโอเฟล” ที่ถูกตัดขาดไปนั้น ก็เปรียบเสมือนสิ่งที่โหยหาอดีตที่เคยอยู่ติดกับร่างกายของนาโอเฟล ไม่ว่ามือนั้นจะมีชีวิตขึ้นมายังไงก็ตาม แต่เมื่อสุดท้ายแล้วมือที่ขาดนั้นก็พบว่าไม่สามารถกลับไปยังที่เดิมของร่างกายได้อยู่ดี
ที่สุดท้ายแล้วนั้นนาโอเฟลและมือที่ขาดของเค้านั้น ก็คงต้องหาทางเดินทางไปข้างหน้าและทิ้งอดีตไว้ข้างหลังเสียที
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ