Countdown : เคาท์ดาวน์ตาย เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่นำแอปสมาร์ทโฟนมีความสามารถทำนายเวลาตายของผู้ใช้งานแบบแม่นเป๊ะ ฟังดูน่าสนใจน่าตื่นเต้น แต่การดำเนินเรื่องออกมาแล้วนั้นน่าผิดหวังไปหน่อย โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่สามารถนำเสนอความน่ากลัว ความลุ้นระทึก ออกมาได้ถึงจุดพีคได้ และอาศัยมุขจังหวะผีตุ้งแช่(Jump Scare) แบบซ้ำซากจำเจ และการหักมุมที่คาดเดาได้แทน
ภาพยนตร์เล่าเรื่องของควินน์ (Elizabeth Lail) พยาบาลสาวที่ดาวน์โหลดแอปและพบว่าเธอเหลือเวลาอีกเพียงสามวันเท่านั้น เธอร่วมมือกับแมทท์(Jordan Calloway) ผู้ใช้ที่ต้องพบกับชะตากรรมอีกราย และ บาทหลวงจอห์น(P.J. Byrne) นักบวชที่รู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดปีศาจของแอป มาช่วยกันเพื่อหาวิธีโกงความตาย โดยในระหว่างทางพวกเขาต้องมาพบกับอุปสรรคต่างๆ เช่น วิญญาณจอมพยาบาท, หมอหื่นกาม (Peter Facinelli) และ แฮ็กเกอร์จอมกวน (Tom Segura)
เขียนบทและกำกับโดย Justin Dec ซึ่งดูเหมือนจะยืมไอเดียมาจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆ เช่น Final Destination, The Ring และ Unfriended แต่อย่างไรก็ตาม เขาล้มเหลวในการทำซ้ำจากความสำเร็จหรือเพิ่มสิ่งใหม่ๆ ให้กับหนังแนวนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ขาดตรรกะ การเชื่อมโยง หรือความคิดสร้างสรรค์ ตัวละครดูจืดชืดและดูน่าไม่เป็นที่ชื่นชอบได้นัก แต่ขอยกเว้นควินน์ไว้คน😍 บทสนทนาดูจืดชืดและอธิบายแบบฝืนๆ รวมถึงโครงเรื่องที่เต็มไปด้วยช่องโหว่และความไม่สอดคล้องกัน
เท่านั้นยังไม่พอ รู้สึกว่าสูญเสียศักยภาพในการลงลึกถึงด้านมืดของเทคโนโลยีและผลกระทบต่อชีวิตของตัวละครอย่างไร แอปเองไม่เคยอธิบายหรือสำรวจในเชิงลึก และกฎของแอปนั้นดูไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวและซึ่งมันทำให้ง่ายกับโครงเรื่องเกินไป และยังไม่ให้ความเห็นหรือข้อมูลเชิงลึกว่าผู้คนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อรู้ชะตากรรมของพวกเขา หรือวิธีที่พวกเขาจะใช้แอปในทางที่ผิด รวมถึงยังพลาดโอกาสที่จะสร้างความตึงเครียดหรือลุ้นระทึกด้วยการแสดงการตัวเลขนับถอยหลังบนหน้าจอ หรือการแจ้งเตือนของแอปเป็นที่มาของความสยองขวัญ
สิ่งที่พอจะดีได้อีกอย่างของภาพยนตร์เรื่องนี้คืออารมณ์ขันแม้จะไม่เยอะก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่มาจากตัวละครสมทบอย่างบาทหลวงและเจ้าของร้านโทรศัพท์ พวกเขาให้ความตลกคล้ายจากการ์ตูนและแสดงให้เห็นความตระหนักรู้ในตนเองแก่ภาพยนตร์ที่น่าเบื่อนี้ อย่างไรก็ตาม มุกตลกของพวกเขาไม่เพียงพอที่จะรักษาภาพยนตร์เรื่องนี้จากการเป็นหนังสยองขวัญให้เป็นระดับตำนานได้
Countdown : เคาท์ดาวน์ตาย เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะไว้ดูฆ่าเวลาหรือต้องการจะดูเพื่อความอยากรู้เพียงเท่านั้น เพราะเป็นได้ค่อนข้างมากที่จะรู้สึกเสียเวลากับการชมหนังเรื่องนี้ เพราะเป็นหนังสยองขวัญที่ไม่หวือหวาแต่ค่อนข้างทำให้เบื่อและหงุดหงิดอยู่นิดๆ เสียด้วยซ้ำ
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ