A Man Called Otto : มนุษย์ลุง…ชื่ออ๊อตโต้ เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวคอมเมดี้ดราม่าในปี 2022 กำกับโดย Marc Forster และนำแสดงโดย ทอม แฮงส์(Tom Hanks) ในฐานะตัวละครสำคัญในเรื่องนี้ แสดงเป็นพ่อม่ายเจ้าอารมณ์ที่ต้องการจบชีวิตตัวเองหลังเกษียณตัวเองออกจากงาน แต่แล้วก็ค้นพบความหมายของชีวิตขึ้นมาใหม่ผ่านมิตรภาพกับเพื่อนบ้านคนใหม่ ภาพยนตร์เรื่องนี้รีเมคจากภาพยนตร์สวีเดนในปี 2015 เรื่อง A Man Called Ove ซึ่งก็สร้างจากนวนิยายปี 2012 ของ Fredrik Backman อีกที แม้ว่าหนังรีเมคส่วนใหญ่มักถูกวิจารณ์ว่าทำให้ด้อยประสิทธิภาพลงโดยไม่จำเป็น แต่ A Man Called Otto ก็สามารถปรับปรุงจากต้นฉบับด้วยวิธีที่หลากหลาย ทำให้เป็นการดัดแปลงที่คุ้มค่าและน่าประทับใจออกมาได้ดี
หนึ่งในจุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการแสดงของทอม แฮงส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบทบาทที่ดีที่สุดของเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทอม แฮงส์แสดงให้ว่าอ็อตโตเป็นตัวละครที่ซับซ้อนออกมาได้แนบเนียน ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงคนแค่คนเจ้าอารมณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นชายที่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ที่ซ่อนไว้ภายใต้ความเศร้าโศกและความขมขื่น และเขายังสร้างความสมดุลระหว่างความตลกขบขันและความดราม่าของบทบาทออกมา นอกจากนี้เขายังมีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับนักแสดงเม็กซิกัน Mariana Treviño ซึ่งรับบทเป็น มาริซอล(Marisol) เพื่อนบ้านที่กำลังตั้งครรภ์ที่สุดท้ายแล้วกลายมาเป็นเพื่อนที่แสนดีกับอ๊อตโต้ ที่ปรับเปลี่ยนมุมมองให้เขาเห็นชีวิตที่แตกต่างออกไป Mariana Treviño นำความอบอุ่นและเสน่ห์มาสู่บทบาทของเธอ สร้างความผูกพันที่น่าเชื่อถือและเป็นความผูกพันธ์อันน่ารักกับ ทอม แฮงส์ ได้ดี
ความน่ารักของเรื่องนี้มันก็แสดงผ่านมิตรภาพใหม่ๆ ที่แตกต่างกันทางวัฒนธรรม ในขณะที่อ๊อตโต้นั่นคิดจะจบชีวิตตัวเองในวิธีที่หลากหลายนั้น เค้าก็จะพบกับอุปสรรคที่ทำให้เค้านั้นหัวเสียจากเหล่าเพื่อนๆ บ้านอยู่เสมอ ด้วยความไม่ตั้งใจเพียงเพราะต้องการความช่วยเหลือจากเค้าเท่านั้นเอง แต่คนที่ปากร้ายใจดีอย่างอ๊อตโต้นั้นก็ไม่เคยปฏิเสธในความช่วยเหลือ นั่นทำให้หนังเรื่องนี้ค่อยๆ ปูพื้นฐานมิตรภาพให้เรารู้สึกอินได้ไม่อยากเย็นนัก
รวมถึงวิธีการเล่าเรื่องแบบย้อนอดีตสมัยหนุ่มของอ๊อตโต้ (แสดงโดยลูกชายของทอม แฮงส์) ในระหว่างที่เค้าพบรักกับชีวิตคู่เพียงหนึ่งเดียวของเขา โดยเล่าผ่านฉากในยุคอดีตที่สวยงามของเมืองพิตต์เบิร์กในอดีต ภาพจะแฟลชแบคเข้ามาตอนที่เขากำลังจะทำอัตวินิบาตกรรมเช่นกัน ซึ่งปมในใจทั้งหลายเล่านี้ไม่ค่อยมีใครได้รับรู้ ในตอนต้นเรื่องจะแสดงให้เห็นถึงความงี่เง่าของอ๊อตโต้เองที่เฮี๊ยบไปซะทุกเรื่องตามเหตุและผลที่ไม่ค่อยประณีประณอม ทำให้สุดท้ายแล้วเมื่อสูญเสียลูกและภรรยาไป ทำให้หกเดือนให้หลังความโดดเดี่ยวในชีวิตเค้าเลยตัดสินใจจะจบชีวิตตัวเองตามภรรยาไปนั่นเอง
แต่เมื่อได้รู้จักเพื่อนบ้านชาวเม็กซิกัน ด้วยความที่ต่างวัฒนธรรม การสื่อสาร การเข้าหาที่อาจแตกต่างจากชาวอเมริกันทั่วไป รวมถึงการที่ท้องและความสูงไม่ต่างจากภรรยาเค้าเท่าไหร่ (สังเกตุได้จากขนาดเคาท์เตอร์ครัวที่อ๊อตโต้ทำขึ้นมาเองเพื่อภรรยา) ทำให้อ๊อตโต้นั่นระลึกถึงภรรยาได้บ้าง รวมถึงลูกๆ ของมาริซอลเช่นกัน ที่เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของอ๊อตโต้ นั่นจึงเปิดใจให้กับครอบครัวที่ย้ายมาใหม่นี้ ซึ่งตัวหนังเองเล่าเรื่องออกมาเรียบเรียงได้ดีมาก การสร้างความสัมพันธ์ ปัญหาในหมู่บ้าน อดีตเก่าๆ ทั้งเรื่องภรรยาและความรักที่จะดูแลในหมู่บ้านแห่งนี้ ทำให้หนังนั้นออกมาดูอบอุ่นหัวใจมากๆ
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ