หากอยากดูซีรี่ส์เกาหลีสักเรื่องที่ครบรสแบบสุขปนเศร้าเคล้าน้ำตา และระลึกถึงวันวานในวัยเยาว์ Reply 1988 (응답하라 1988) หรือชื่อไทยใน NETFLIX “วันวาน 1988” คิดว่าน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีเรื่องนึงแน่ๆ เลยครับ เป็นซีรีส์จากเกาหลีที่เคยออกอากาศทางช่อง tvN ช่วงปี 2015-2016 ที่เป็นภาคที่สามของซีรี่ส์ Reply ต่อจาก Reply 1997 และ Reply 1994 แต่สามารถดูแยกเรื่องราวเดี่ยวๆ ได้ เพราะแต่ละเรื่องไม่ได้เกี่ยวเนื่องกันแต่อย่างใด
Reply 1988 จะเล่าเรื่องที่ติดตามชีวิตของห้าครอบครัวและเด็กวัยรุ่นห้าคนที่อาศัยอยู่ในซอยเดียวกันย่านซังมุนดง เขตโดบง ทางตอนเหนือในกรุงโซลช่วงปี 1988(2531) ที่ฉากหลังเป็นการรวบรวมสาระสำคัญของปลายยุค 1980 จากแฟชั่น ดนตรี วัฒนธรรม การเมือง ไปจนถึงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่หล่อหลอมประเทศเกาหลีในขณะนั้น นอกจากนี้ยังสื่อถึงความสุขและความเศร้าของการเปลี่ยนผ่านช่วงวัยรุ่น การตกหลุมรัก การไล่ตามความฝัน และการเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง
ตัวละครหลักในเรื่อง Reply 1988:
- ซองด็อกซอน – Sung Deok-sun แสดงโดย อี ฮเย-รี (Lee Hye-ri) ด็อกซอนเป็นลูกสาวคนกลางในสามพี่น้องของครอบครัวที่สมองทึบในเรื่องเรียนจนอยู่อันดับที่ 999 แต่ก็ยังมีข้อดีที่มีบุคลิกที่ร่าเริงสดใสจนล้นและมีความใส่ใจความรู้สึกกับคนรอบๆ ข้าง เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มเพื่อนในซอยและแอบชอบเพื่อนผู้ชายคนนึงในกลุ่มนั้น
- คิมจองฮวาน – Kim Jung-hwan แสดงโดย รยู จุน ยอล (Ryu Jun-yeol) เด็กหนุ่มผู้อดทนแบบ Stoic แต่ก็ยังชอบเหน็บแนมบางเวลาด้วยลุคเท่ๆ แต่ก็ซ่อนความแอบชอบด็อกซอนไว้อย่างลับๆ และลังเลที่จะสารภาพความรู้สึก นอกจากนี้เขายังห่วงใยจองบง (อันแจฮง – Ahn Jae-hong) พี่ชายเนิร์ดๆ ของเขาที่ป่วยเป็นโรคหัวใจเรื้อรัง
- ซองซอนอู – Sung Sun-woo แสดงโดย โก คยอง พโย (Go Kyung-pyo) เด็กดีประจำซอยที่เป็นประธานนักเรียน ลูกชายที่พึ่งได้ของแม่เลี้ยงเดี่ยวพี่ชายที่น่ารักของน้องสาวคนเล็ก ซอนอูเป็นชายหนุ่มในอุดมคติที่อุทิศตนเพื่อเพื่อนฝูงและครอบครัว นอกจากนี้เขายังแอบชอบโบรา (รยูฮเยยัง – Ryu Hye-young) พี่สาวคู่กัดของด็อกซอนซึ่งเป็นนักศึกษาที่ฉลาดหลักแหลมแต่มีนิสัยที่ค่อนข้างแข็งกร้าว มีแนวคิดที่ต่อต้านรัฐบาลจึงไปประท้วงอยู่บ่อยๆ
- ชเวแท็ก – Choi Taek แสดงโดย พัคโบกอม (Park Bo-gum) แท็กเป็นนักเล่นหมากล้อมอันอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงถึงระดับนานาชาติ เป็นคนที่เงียบที่สุดในกลุ่มเพื่อน เลิกเรียนตั้งแต่เด็กเพื่อมาจริงจังกับการซ้อมและแข่งขันหมากล้อม นั่นทำให้ไม่ค่อยเหมือนเด็กในวัยเดียวกันที่มีเพื่อนเรียน แม้จะเป็นคนฉลาดแต่ก็ต้องดิ้นรนกับงานง่ายๆ ประจำวัน จึงต้องพึ่งพาเพื่อน ๆ ในกลุ่ม เพื่อเป็นเพื่อนและคอยสนับสนุน นอกจากนี้เขายังพัฒนาความรู้สึกที่มีต่อด็อกซอนเมื่อใกล้ชิดกันมากขึ้น
- รยู-ดง-รยง – Ryu – Dong-ryong แสดงโดย อีดงฮวี(Lee Dong-hwi) เด็กแว่นที่ขี้เกียจเรียนแต่มีไหวพริบและดูร่าเริงที่รักสื่อบันเทิงและการเต้นรำ เป็นคนคอยปล่อยมุกตลกให้กับกลุ่มและมักจะทำให้บรรยากาศสดใสขึ้นด้วยมุกตลกฝืดๆ ของเขา แต่ก็มีปมกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับพ่อซึ่งเป็นครูฝ่ายปกครองในโรงเรียนที่เค้าเรียนอยู่ และแม่ผู้ซึ่งที่ทำแต่งานไม่มีเวลามาเลี้ยงดูเท่าไหร่
5 ครอบครัวในซอยซังมุนดง
- ครอบครัวซอง(Sung): 5 ชีวิตที่อาศัยอยู่แบบกึ่งใต้ดิน ซองดงอิลผู้เป็นพ่ออาชีพนายธนาคารและอีอิลฮวาผู้เป็นแม่ มีลูกสามคนได้แก่ โบราลูกสาวคนโตเป็นนักศึกษาวิทยาลัยที่ฉลาดและพูดตรงไปตรงมามักจะเข้าไปเป็นส่วนร่วมในการประท้วงของนักศึกษาช่วงยุค 80s ด็อกซอนลูกสาวคนกลางซึ่งเป็นเด็กสาวที่ร่าเริงและจิตใจดี โนอึลน้องชายคนเล็กแต่หน้าเท่าลุงคนโตที่มักถูกพี่สาวรังแกอยู่เสมอ พ่อแม่รักและสนับสนุนลูก ๆ ของพวกเขาในทุกๆ อย่างที่เค้าเป็น แต่ก็เข้มงวดและประหยัดเงินเพราะว่าดงอิลเป็นคนประเภทปากร้ายใจดีไปค้ำประกันจนเป็นหนี้แทน จนเราจะได้เห็นความเป็นอยู่ที่อัตคัดของครอบครัวนี้ ไม่ว่าจะอาหารการกินและที่นอน ที่พ่อแม่และน้องชายต้องนอนด้วยกันที่ห้องนั่งเล่น ส่วนพี่สาวทั้งสองแยกห้องนอนนั้นก็ต้องแชร์ที่นอนและเสื้อผ้าด้วยกันเช่นกัน ในครอบครัวนี้มักจะทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เสมอ แต่ก็แบ่งปันช่วงเวลาที่แสนหวานให้กันไม่ขาดสายเช่นกัน
- ครอบครัวคิม(Kim): พวกเขา 4 คนอาศัยอยู่ในรั้วเดียวและหลังเดียวกันกับครอบครัวซอง แต่เป็นบ้านที่อยู่ชั้นบนที่กว้างขวางและหรูหรากว่า เนื่องจากลูกชายคนโตถูกหวยเบอร์ใหญ่ คิมซองคยุนผู้เป็นพ่อมีอาชีพขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและรามีรันผู้เป็นแม่แก่วัยกว่าพ่อหน่อยๆ มีลูกชายสองคนคือ จองบง เป็นชายหนุ่มที่อ่อนโยนและอบอุ่นที่มีข้อบกพร่องของโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด และ จองฮวาน หนุ่มเท่และฉลาดที่เก่งด้านกีฬาและวิชาการ ครอบครัวคิมมักจะแสดงความห่วงใยและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับเพื่อนบ้านอยู่บ่อยๆ แต่ก็มักจะกังวลเกี่ยวกับอนาคตของลูกชายด้วยโดยเฉพาะลูกคนโต พวกเขามักจะหยอกล้อกันโดยเฉพาะคิมคนพ่อที่มักจะเล่นเหมือนเด็กๆ
- ครอบครัวซอง(บ้านซอนอู): สามชีวิตอาศัยอยู่ในบ้านที่เรียบง่ายและเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวเนื่องจากการเสียชีวิตของพ่อ มีลูกสองคนที่อายุห่างหลายปีอย่าง ซอนอู ลูกชายคนโตและจินจูวัย 4 ขวบ ลูกสาวคนเล็กที่น่ารักมักถูกพี่ชายสปอยล์อยู่เสมอ ส่วนซอนยองผู้เป็นแม่ที่ใช้เพียงบำนาญของสามีในการดำรงชีพและเลี้ยงลูกเพียงลำพัง
- ครอบครัวชเว(Choi): สองหนุ่มพ่อลูกอาศัยอยู่ในบ้านที่หรูหราและร่ำรวยเนื่องจาก แท็กมีชื่อเสียงในฐานะผู้เล่นหมากล้อม (Baduk) จนสร้างรายได้มากมาย ส่วนพ่อเลี้ยงเดี่ยวของแท็กคือชเวมูซังเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกแต่ภายในเป็นคนอ่อนโยนและสงบเสงี่ยม ดูแลและสนับสนุนอาชีพลูกชายอย่างดี
- ครอบครัวรยู (Ryu): บ้านของดงรยง มีพ่อรยู แจ-มยอง ที่เป็นครูฝ่ายปกครองโรงเรียนซังมุนที่สามหนุ่มนั้นเรียนอยู่ ส่วนแม่หัวหน้าโจนายหน้าตัวแทนขายประกันระดับท็อป 7 ปีซ้อนจนละเลยการดูแลลูกชายที่ดีพอ(ยกเว้นเงิน) ทำให้ดงรยงเป็นเด็กเก็บกดหน่อยๆ และยังไม่ค่อยสนใจการเรียนเท่าเพื่อนๆ ของพวกเขา และเป็นครอบครัวที่ในเรื่องราวให้ชมน้อยมากเปรียบได้ครอบครัวสมทบในเรื่องเท่านั้น
ความรู้สึกหลังดูจบ(อาจสปอยล์)
ซีรี่ส์เกาหลีเรื่องนี้เป็นไม่กี่เรื่องที่ดูแล้วรู้สึกชอบเลยในทันที ซึ่งส่วนใหญ่ละครเกาหลีมักจะออกมาเว่อร์ๆ ของฉากและการแสดง หรือรักกันหยาดเยิ้มจนดูเกินจริงไป แม้ว่าเรื่องก็พอมีกลิ่นอายแบบนั้นอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็มีหลายๆ อย่างที่ทำให้หลงรักจนมองข้ามมันไปได้
สิ่งแรกเลยมันเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ความอบอุ่น และความคิดถึงอดีตแบบที่เราเป็นคนไทยก็ยังสัมผัสมันได้ไม่ยากเย็น อย่างเรื่องนี้ใช้การอ้างอิงถึงวัฒนธรรมสมัยนิยมและเหตุการณ์ในช่วงปี 1980 ของเกาหลี เช่น เพลง ภาพยนตร์ รายการทีวี คนดัง กีฬา เกม ผลิตภัณฑ์ และข่าว ซึ่งตั้งแต่จำความได้ว่ารู้จักประเทศเกาหลีจากไหนก็คงจากข่าวประท้วงและคิดว่าไทยกับเกาหลีในยุคนั้นความเจริญไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก ซึ่งซีรีส์นี้เป็นสิ่งที่ยืนยันความคิดในตอนนั้นได้อย่างดี
ส่วนตัวในวัยเด็กครอบครัวแถวบ้านนั้นคล้ายๆ กับในเรื่องเลย พ่อแม่รู้จักกันหมด เข้านอกออกในบ้านแต่ละหลังกันยังกะบ้านตัวเอง พลัดกันไปนอนค้างแต่ละบ้าน ช่วงเหล่าพ่อๆ ไปทำงาน เหล่าแม่ๆ ที่เป็นแม่บ้านก็มาจับกลุ่มนั่งเมาท์มอยกันบนแคร่ พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าในยุคนั้น การใช้ชีวิตนั้นดูใกล้เคียงกันมาก นั่นเลยทำให้เข้าถึงเรื่องนี้เข้าไปอีก
พอมาดูละครเรื่องนี้ เนื้อเรื่องให้น้ำหนักของเรื่องราวที่หลากหลายและเข้าถึงได้ อย่างเรื่องของพ่อแม่ของตัวละครหลักให้มีเรื่องราวและบุคลิกของตัวเอง ที่มักแสดงให้เห็นการรวมตัวกันเพื่อแบ่งปันอาหารการกิน เรื่องซุบซิบนินทา และการให้คำแนะนำต่างๆ รวมถึงเหล่าปัญหาต่างๆ ที่ผู้ใหญ่ต้องเผชิญยังเผชิญ เช่น ปัญหาทางการเงิน ปัญหาสุขภาพ ปัญหาชีวิตคู่ และการเติบโตเป็นวัยรุ่นของลูกๆ เป็นต้น
คือเรื่องมันไม่ได้เน้นไปที่คู่รักวัยรุ่นคู่หลักเพียงแค่คู่เดียว หรือโครงเรื่องหลักแค่อย่างเดียว แต่จะแสดงเรื่องราวที่เชื่อมโยงกันของตัวละครทั้งหมดที่มีความสัมพันธ์ระหว่างกัน ด้วยการเปิดเรื่องแบบสัมภาษณ์ด็อกซอนในวัยผู้ใหญ่เล่าถึงอดีต จึงได้เห็นการพัฒนาของตัวละครที่ละเอียดมากๆ โดยเฉพาะตัวของด็อกซอนเอง ตั้งแต่เด็กห้าวๆ ซ่าๆ ไม่น่าจะมีใครมาชอบ ค่อยๆ โตเป็นผู้ใหญ่และเข้าหัวอกหัวใจคนรอบๆ ข้างมากขึ้น และความสนุกที่เพิ่มมาคือการคาดเดาว่าใครจะลงเอยที่แต่งงานกับด็อกซอนกันแน่
Reply 1988 จึงเป็นละครเกาหลีที่จะเข้าไปอยู่ในหัวใจของเราและทำให้รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวซังมุนดง แม้ว่าช่วงท้ายๆ จะเร่งเวลาข้ามไปเร็วจนรู้สึกว่าเร่งจนเกินไป และหลายๆ อย่างก็ถูกเฉลยแบบรีบหวดจนขาดความลุ่มลึกของตัวละครสมทบไปบ้าง แต่ก็เร็วจนชนิดที่ว่าตอนสุดท้ายแล้วก็ยังไม่อยากให้จบ รวมถึงใน Netflix หลายๆ อย่างติดลิขสิทธิ์จนถูกเซ็นเซอร์ให้เสียอรรถรสไปบ้างก็ตาม แต่ความอบอุ่นหัวใจของเรื่องนี้มันก็อยู่จนถึงตอนสุดท้ายที่แต่ละครอบครัวทะยอยย้ายออกจากซอยนั้น เล่นทำเอาใจหายจนน้ำตาซึมไปเลยล่ะครับ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย:
- เพลงประกอบละครเป็นการนำเพลงเกาหลียุคเก่าที่ได้รับความนิยมในช่วงยุค 1980s มาทำใหม่ให้เข้ากับอารมณ์และธีมในแต่ละตอน ซึ่งมันช่วยกระตุ้นย้อนความทรงจำในหมู่ผู้ชม หลายศิลปินที่เข้ามามีส่วนร่วม ได้แก่ Kim Feel, Oh Hyuk, Lee Juck และ Park Bo-ram
- ตัวละคชเวแท็กที่รับบทโดยพัคโบกอม ได้รับแรงบันดาลใจจากผู้เล่นหมากล้อม(Baduk หรือ Go) ในชีวิตจริงชื่อ อีชางโฮ (Lee Chang-ho) ที่เป็นอัจฉริยะจนกลายเป็นผู้เล่นมืออาชีพตอนอายุ 12 ปี และชนะการแข่งขันระดับนานาชาติอย่างมากมายในช่วงปี 1980s – 1990s จนได้รับฉายาว่า “God of Go”
- นักแสดงโกอาราและจองอูจาก Reply 1994 ซึ่งเป็นภาคก่อนหน้าของซีรีส์ Reply มาเป็นนักแสดงรับเชิญในตอนที่ 18 กลับมารับบทเป็นซองนาจองและซึแรกิ (คิมแจจุน) ซึ่งซึแรกิที่แปลว่า “ขยะ” คือเพื่อนนักศึกษาแพทย์ของซอนอูที่จะไปนัดบอดกับซองโบรา แต่ก็นำเหตุการณ์ใน Reply 1994 มาเป็นจุดพลิกผันทำให้ซอนอูต้องไปนัดบอดแทนซึแรกิและได้เปิดใจกับซองโบราอีกครั้งในท้ายที่สุด
- ใน Reply 1997, 1994 และ 1988 นักแสดง ซองดงอิล และ อีอิลฮวา แสดงโดยใช้ชื่อจริงของตัวเองในบทบาทดังกล่าว แม้ว่าแต่ละภาคที่แสดงนั้นบทจะไม่เกี่ยวเนื่องกันก็ตาม
- และนักแสดงหลายคนในภาค 1988 ใช้ชื่อจริงในตัวละครเลยเช่นกัน อย่าง Kim Sung-Kyun, Ra Mi-Ran, Kim Sun-Young, Yoo Jae-Myung และ Choi Moo-Sung
- Reply 1988 ทำลายสถิติยอดผู้ชมของเคเบิลทีวีเกาหลีเมื่อออกอากาศในช่วงนั้น โดยเฉพาะตอนอวสานสถิติสูงถึง 18.8% นั่นเลยทำให้เป็นละครที่มีเรตติ้งสูงสุดในประวัติศาสตร์เคเบิลทีวีในช่วงเวลานั้น แต่ปัจจุบันในปี 2023 เป็นละครที่มีเรตติ้งสูงสุดเป็นอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์เคเบิลทีวีในเกาหลีใต้ เป็นรองจากเรื่อง The World of the Married (2020): 28.371%, Reborn Rich (2022): 26.948%, Sky Castle (2018): 23.779%, และ Crash Landing on You (2019): 21.683%
- ฉากจูบระหว่างแท็กและด็อกซอนในตอนที่ 19 นั้น ได้รับรางวัล DramaFever Award สาขา Best Kiss ในปี 2015 ฉากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Best Kiss Award จากงาน tvN10 Awards ในปี 2016 แต่แพ้ให้กับ เอริก มุน และ ซอ ฮยอนจิน จากเรื่อง Another Miss Oh (또! 오해영) แต่ส่วนตัวชอบฉากจูบที่แท็กคิดว่าฝันมากกว่าอีกนะ
ที่มา:
https://en.wikipedia.org/wiki/Reply_1988
https://www.netflix.com/title/80188351
https://drama.fandom.com/wiki/Reply_1988
https://yaay.today/Reply-1988-fun-facts-get-to-know-everything-about-the-emblematic-K-Drama-t202212210002.html
https://movieweb.com/reply-1988-go-to-classic-k-drama/
https://www.soompi.com/article/847561wpp/park-bo-gum-and-hyeris-kiss-scene-in-reply-1988-wins-best-kiss-at-dramafever-awards
https://www.imdb.com/title/tt5182866/
https://www.viki.com/tv/26576c-reply-1988
https://www.korseries.com/korseries-reply-1988-2015/
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ