ซีรีส์ “Fallout – ฟอลล์เอาท์ ภารกิจฝ่าแดนฝุ่นมฤตยู” บน Prime Video หลังจากดูจบก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นการดัดแปลงจากวิดีโอเกมยอดนิยมที่น่าหลงใหล นำเสนอการเล่าเรื่องที่ทั้งสดใหม่และตรงตามเนื้อหาต้นฉบับของเกม โดย 2 ผู้สร้าง Geneva Robertson-Dworet และ Graham Wagner ได้สร้างโลกที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและตำนานจากเกมนั้น ทำให้สามารถเข้าถึงและรู้สึกมีส่วนร่วมแม้กระทั่งสำหรับผู้ที่ไม่เคยลองเล่นเกม Fallout มาก่อนก็ตาม
ซีรีส์เรื่องนี้ใช้ฉากหลังที่อยู่ในโลกหลังเกิดหายนะจากสงครามนิวเคลียร์ การสร้างโลกอันซับซ้อนในสไตล์ Retrofuturism(เรโทรฟิวเจอริสต์) ที่ดูย้อนยุคแต่มีความทันสมัยอยู่ในนั้น และโครงเรื่องที่เต็มไปด้วยจุดหักมุมที่น่าประหลาดใจ การเล่าเรื่องเป็นการผสมผสานที่เฉียบแหลมด้วยแอ็คชั่น และดาร์คคอมเมดี้อันมืดมน พร้อมด้วยตัวละครที่น่าสนใจและความลึกลับของไทม์ไลน์ ที่ช่วยเพิ่มความลึกให้กับซีรี่ส์นี้
การแสดงของนักแสดงก็ทำออกมาได้ดี นำโดย Ella Purnell(เอลลา เพอร์เนล) ในบท “ลูซี่” และ Walton Goggins(วอลตัน ก็อกกินส์)ในบท “เดอะกูล” ส่วน Aaron Moten(แอรอน โมเท่น) ในบท “แม็กซิมัส” ที่การแสดงสีหน้าและอารมณ์ได้เหมือนเดนเซล วอชิงตันอย่างบอกไม่ถูก และโดยรวมๆแล้ว เหล่าตัวละครได้รับการพัฒนามาอย่างดี มีความสมดุลกับช่วงเวลาทางอารมณ์และความรู้สึกของการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ในซี่รีส์นี้ได้อย่างดีทีเดียว
เหล่านักวิจารณ์หลายๆ คน ต่างชื่นชม “Fallout” ที่เล่าเรื่องลำดับออกมาได้ดีและน่าติดตาม มีการแสดงที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ โดยถูกยกให้เป็นหนึ่งในการดัดแปลงวิดีโอเกมมาเป็นหนังหรือซีรี่ส์ที่ดีที่สุดในปัจจุบันเลยทีเดียว นั่นทำให้ซีรี่ส์นี้ได้รับอนุมัติให้สร้างซีซันที่ 2 เป็นที่เรียบร้อย
โดยสรุปแล้ว “Fallout – ฟอลล์เอาท์ ภารกิจฝ่าแดนฝุ่นมฤตยู” เป็นซีรีส์ที่โดดเด่นในตัวเอง โดยนำเสนอประสบการณ์อันเข้มข้นและดื่มด่ำที่เหนือกว่าต้นกำเนิดของวิดีโอเกม ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพของการดัดแปลงวิดีโอเกมด้วยความเอาใจใส่และความคิดสร้างสรรค์ลงไป ซีรี่ส์นี้ถือเป็นอุบัติขึ้นของผู้มาใหม่ในจักรวาล และแฟน ๆ ที่รู้จักกันมานานนั้นจะพบว่าสนุกอย่างแน่นอน จนรู้สึกว่า 8 Episode นั้นแป๊ปเดียวจบแล้ว
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ