Skip to content

Wake Me Up : Avicii | บทเพลงแห่งการเดินทาง ค้นหาตัวเอง และการเติบโต ◢ ◤

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

Wake Me Up เป็นเพลงของ Avicii หรือ Tim Bergling โปรดิวเซอร์และดีเจชื่อดังชาวสวีเดน ซึ่งเปิดตัวในปี 2013 เป็นซิงเกิลนำจากอัลบั้ม True เพลงนี้โดดเด่นด้วยการผสมผสานแนวดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ (EDM) เข้ากับโฟล์กและคันทรี โดยมี Aloe Blacc เป็นผู้ร้องนำ และ Mike Einziger จากวง Incubus ร่วมแต่งเพลง แนวทางดนตรีที่แปลกใหม่ทำให้ Wake Me Up แตกต่างจาก EDM ในยุคนั้น และได้รับเสียงชื่นชมในความสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก

เพลงนี้ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล ติดอันดับ 1 ในหลายประเทศ รวมถึง UK Singles Chart และ Billboard Hot 100 (อันดับสูงสุดที่ 4) และกลายเป็นเพลงที่ถูกสตรีมมากที่สุดใน Spotify ในปี 2013 นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลและยอดขายหลายล้านชุดทั่วโลก พร้อมทั้งกลายเป็นเพลงสัญลักษณ์ของ Avicii ก่อนที่เขาจะจากไปในปี 2018 เสียงร้องที่เต็มไปด้วยอารมณ์และเนื้อหาของเพลงที่พูดถึงการค้นหาตัวเองและชีวิต ทำให้เพลง Wake Me Up เป็นเพลงที่ยังคงก้องอยู่ในใจแฟนเพลงจนถึงปัจจุบัน

ความหมายของเพลง Wake Me Up

สื่อถึงการเดินทางค้นหาตัวเองและการเติบโตในชีวิต เนื้อเพลงสะท้อนความรู้สึกของคนที่กำลังหลงทาง ไม่แน่ใจในอนาคต แต่ยังคงเดินไปข้างหน้าเพื่อค้นพบจุดหมายของตัวเอง ท่อน “I tried carrying the weight of the world, but I only have two hands” แสดงถึงความกดดันและภาระที่หนักอึ้ง ในขณะที่ “So wake me up when it’s all over, when I’m wiser and I’m older” เป็นเสมือนการร้องขอให้เวลาผ่านไป จนกว่าจะเข้าใจชีวิตได้ดีขึ้น เพลงนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ฟังกล้าที่จะเผชิญกับความไม่แน่นอนและใช้ชีวิตอย่างเต็มที่

Wake Me Up – Avicii (แปลไทย)

I feel my way through the darkness | ฉันก้าวเดินผ่านความมืดมิด
Guided by a beating heart | มีเพียงเสียงหัวใจนำทางฉันไป
I can’t tell where the journey will end | ฉันไม่รู้ว่าการเดินทางนี้จะสิ้นสุดที่ใด
But I know where to start | แต่ฉันรู้ว่าต้องเริ่มจากตรงนี้

They tell me I’m too young to understand | ผู้คนบอกว่าฉันยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจ
They say I’m caught up in a dream | พวกเขาบอกว่าฉันแค่หลงอยู่ในความฝัน
Well life will pass me by if I don’t open up my eyes | แต่หากฉันไม่ลืมตาตื่นขึ้นมา ชีวิตก็จะผ่านไปเปล่าๆ
Well that’s fine by me | แต่ฉันก็ยอมรับมันได้

Chorus:
So wake me up when it’s all over | ปลุกฉันขึ้นมาเมื่อทุกอย่างจบลง
When I’m wiser and I’m older | เมื่อฉันเติบโตขึ้นและเข้าใจชีวิตมากกว่านี้
All this time I was finding myself | ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันกำลังค้นหาตัวเอง
And I didn’t know I was lost | แต่ฉันไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองกำลังหลงทาง

I tried carrying the weight of the world | ฉันเคยพยายามแบกภาระของโลกทั้งใบ
But I only have two hands | แต่ฉันก็มีแค่สองมือเท่านั้น
I hope I get the chance to travel the world | ฉันหวังว่าสักวันจะได้ออกเดินทางไปรอบโลก
But I don’t have any plans | แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีแผนการใดๆ

I wish that I could stay forever this young | ฉันหวังว่าจะอยู่ในช่วงวัยนี้ตลอดไป
Not afraid to close my eyes | ไม่กลัวที่จะหลับตาฝัน
Life’s a game made for everyone | เพราะชีวิตคือเกมที่สร้างมาเพื่อทุกคน
And love is the prize | และความรักคือรางวัลที่แท้จริง

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Optimized by Optimole