มีไม่กี่แฟรนไชส์ที่ได้รับความรักอย่างกว้างขวางและสร้างความรู้สึกโหยหาอดีตข้ามรุ่นได้เหมือนกับ เดอะ ซูเปอร์มาริโอบราเธอร์ส มูฟวี่ ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าสี่ทศวรรษที่ครอบคลุมทั้งวิดีโอเกม การ์ตูน และแอนิเมชัน จึงเป็นซีรีส์ที่แบกรับมรดกอันทรงคุณค่าเอาไว้ คำถามที่ตามมาคือ: ภาพยนตร์จะสามารถถ่ายทอดเสน่ห์ของเกมและมอบประสบการณ์ทางภาพยนตร์ที่คู่ควรกับชื่อเสียงของมันได้จริงหรือไม่? โชคดีที่ ภาพยนตร์เดอะ ซูเปอร์มาริโอบราเธอร์ส มูฟวี่ ไม่ได้เป็นเพียงการดัดแปลงที่ซื่อสัตย์ต่อต้นฉบับเท่านั้น แต่ยังเป็นการเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยสีสันและพลังงานสูงของทุกสิ่งที่ทำให้มาริโอเป็นไอคอนที่อยู่คู่กับเรามาอย่างยาวนาน
โลกที่มีชีวิตชีวา
ตั้งแต่ฉากแรกของภาพยนตร์ เห็นได้ชัดว่า Illumination (สตูดิโอผู้สร้าง Despicable Me และ Sing) ได้ทุ่มเทสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ทางภาพลงในทุกเฟรม อาณาจักรเห็ดเต็มไปด้วยสีสัน รายละเอียด และพลังงานที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นถนนที่คึกคักในเมืองโทด(Toad) การปรากฏตัวอันน่าหวาดกลัวของปราสาทบาวเซอร์ หรือความอลังการของถนนสายรุ้งที่เรืองแสงนีออน ทุกฉากดูเหมือนถูกดึงออกมาตรงๆ จากเกมแต่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์สำหรับบนจอใหญ่ๆ
แต่ไม่ใช่แค่การสร้างสถานที่ที่คุ้นเคยขึ้นมาใหม่เท่านั้น—แต่เป็นการทำให้พวกมันรู้สึกมีชีวิต ภาพยนตร์ไม่ได้แค่เอาอกเอาใจแฟนๆ ด้วยการซ่อน Easter eggs (แม้ว่าจะมีอยู่มากมาย) แต่ยังผสมผสานองค์ประกอบจากแฟรนไชส์อย่างพิถีพิถัน ทั้งฉากการกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางและไอเทมเพิ่มพลัง ในรูปแบบที่รู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่าทำเพราะจำเป็นต้องทำ ผลลัพธ์คือประสบการณ์ที่ดึงดูดผู้ชมเข้าสู่โลกของมาริโอ ไม่ว่าพวกเขาจะเล่นเกมนี้มาตั้งแต่ยุค 80s หรือเพิ่งรู้จักเขาเป็นครั้งแรกก็ตาม
เรื่องราวที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
ในแก่นของเรื่อง ภาพยนตร์เดอะ ซูเปอร์มาริโอบราเธอร์ส มูฟวี่ นำเสนอการเดินทางของฮีโร่แบบคลาสสิก มาริโอ (พากย์เสียงโดย คริส แพรตต์) เป็นผู้ที่ไม่มีใครคาดหวัง เป็นช่างประปาจากบรุกลินที่พบว่าตัวเองต้องผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ และต้องเผชิญหน้ากับบาวเซอร์ผู้น่าเกรงขาม (แจ็ค แบล็ค) เคียงข้างเขาคือลุยจิ (ชาร์ลี เดย์) ที่พลังงานแห่งความประหม่าช่วยเพิ่มความยากขึ้นกันและกัน และเจ้าหญิงพีช (อันยา เทย์เลอร์-จอย) ที่ถูกถ่ายทอดด้วยความแข็งแกร่งและภาวะผู้นำที่สวยสดใส แทนที่จะเป็นแค่หญิงสาวในอันตรายที่รอการช่วยเหลือแบบในเรื่องเล่าทั่วไป
แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเป็นไปตามรูปแบบที่คาดเดาได้ แต่มันเคลื่อนไหวในจังหวะที่รวดเร็ว เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ฉากแอคชั่น และช่วงเวลาที่กินใจ ภาพยนตร์เลือกที่จะเน้นความเหลือเชื่อของเรื่องราวอย่างชาญฉลาด นำเสนอมุมมองที่รู้เท่าทันแต่ไม่เคยดูถูกจักรวาลของมาริโอ มีช่วงเวลาที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในสายสัมพันธ์ฉันพี่น้องของมาริโอและลุยจิ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญทางอารมณ์ของภาพยนตร์
แอคชั่น อารมณ์ขัน และความโหยหาอดีตที่ทำได้อย่างถูกต้อง
ภาพยนตร์เข้าใจดีว่าอะไรทำให้มาริโอสนุก—แอคชั่นที่เร็วจัด อารมณ์ขันแปลกๆ และความรู้สึกสนุกสนานที่ปฏิเสธไม่ได้ ฉากแอคชั่นต่างๆ โดยเฉพาะช่วงการแข่งรถคาร์ทที่น่าตื่นเต้น มีภาพที่น่าตื่นตาและถูกสร้างขึ้นอย่างชาญฉลาด แฟนๆ จะชื่นชอบการอ้างอิงเล็กๆ น้อยๆ ถึงประวัติการเล่นเกมของมาริโอ แต่ภาพยนตร์ไม่ได้พึ่งพาแค่ความโหยหาอดีตเท่านั้น มันสร้างโลกที่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง
อารมณ์ขันมีอยู่มากมาย และแม้ว่ามุกตลกบางอย่างจะมุ่งเน้นไปที่ผู้ชมที่อายุน้อยกว่า แต่ก็มีไหวพริบและเสน่ห์มากพอที่จะทำให้แฟนๆ ที่อายุมากกว่าเพลิดเพลิน ภาพยนตร์รู้ว่าเมื่อไหร่ควรล้อเลียนต้นฉบับของมันโดยไม่รู้สึกเป็นการดูถูกเลย
Easter Eggs – จดหมายรักถึงแฟนๆ
สำหรับแฟนมาริโอที่ติดตามมานาน เดอะ ซูเปอร์มาริโอบราเธอร์ส มูฟวี่ เต็มไปด้วยอีสเตอร์เอ้กส์ที่น่าชื่นชมและการอ้างอิงถึงประวัติศาสตร์อันกว้างใหญ่ของแฟรนไชส์นี้ ตั้งแต่เสียงเอฟเฟกต์คลาสสิกและดนตรีประกอบ ไปจนถึงการอ้างอิงแฝงถึงเกมมาริโอที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ภาพยนตร์มอบรางวัลให้กับผู้ชมที่มีสายตาเฉียบคมด้วยเซอร์ไพรส์แห่งความโหยหาอดีตในทุกจังหวะ หากสังเกตให้ดี คุณจะเห็นการอ้างอิงกลับไปยัง ดองกี้คอง, ลุยจิ แมนชั่น และแม้แต่ ซูเปอร์มาริโอ กาแล็กซี่ แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ป้ายสัญลักษณ์ในฉากหลังที่บรุกลิน หรือวิธีที่ตัวละครใช้ไอเทมเพิ่มพลัง แสดงให้เห็นถึงความชื่นชมอย่างลึกซึ้งของผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีต่อซีรีส์นี้ สิ่งซ่อนเร้นเหล่านี้ยกระดับประสบการณ์ ทำให้การกลับมาดูซ้ำยิ่งมีคุณค่าสำหรับแฟนผู้ทุ่มเททั้งหลาย
อีสเตอร์เอ้กส์และการอ้างอิงที่น่าสนใจใน เดอะ ซูเปอร์มาริโอบราเธอร์ส มูฟวี่:
- แร็พมาริโอจาก The Super Mario Bros. Super Show!: โฆษณาบริการประปามีเพลงแร็พที่ชวนนึกถึง “The Mario Rap” จากซีรีส์โทรทัศน์ปี 1989 เรื่อง The Super Mario Bros. Super Show!
- การจำลองด่าน 1-1: มีฉากหนึ่งที่แสดงลำดับการเคลื่อนไหวแบบเลื่อนด้านข้างซึ่งเหมือนกับด่านอันเป็นสัญลักษณ์ 1-1 จากเกม ซูเปอร์มาริโอบราเดอร์ส ดั้งเดิม
- การปรากฏตัวของชาร์ลส์ มาร์ติเนต: ชาร์ลส์ มาร์ติเนต ผู้พากย์เสียงมาริโอมายาวนาน มาปรากฏตัวในบทจูเซปเป้ ชายชราที่ชื่นชมสำเนียงอิตาเลียนของมาริโอและลุยจิในโฆษณาของพวกเขา
- การปรากฏตัวของนายกเทศมนตรีพอลีน: พอลีน หญิงสาวในอันตรายคนแรกของมาริโอจากเกมอาร์เคด ดองกี้คอง ปรากฏตัวในฐานะนายกเทศมนตรีของนิวยอร์กซิตี้
- ร้านของเก่าในอาณาจักรเห็ด: ร้านนี้มีไอเทมคลาสสิกอย่างเช่น Super Bell จาก Super Mario 3D World, ลูกโป่ง P และกล่องดนตรีจาก Super Mario Bros. 3
- การอ้างอิงถึง Luigi’s Mansion: เมื่อลุยจิถูกส่งไปยังดินแดนมืด ดนตรีพื้นหลังมีการอ้างอิงถึงธีมจาก Luigi’s Mansion อย่างแยบยล
- หน้าร้าน Disk-Kun: หน้าร้านในบรุกลินแสดงป้าย “Disk-Kun” ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงมาสคอตของ Famicom Disk System คอนโซลของนินเทนโดจากยุค 1980
- การอ้างอิงถึง Wrecking Crew: ตัวละคร Spike อดีตเจ้านายของมาริโอและลุยจิ อ้างอิงถึงเกมปี 1985 เรื่อง Wrecking Crew ที่มาริโอและลุยจิทำงานในไซต์ก่อสร้าง
- ถนนสายรุ้งและเปลือกหอยสีฟ้า: ฉากแข่งรถคาร์ทในภาพยนตร์มีถนนสายรุ้งและแนะนำเปลือกหอยสีฟ้า ซึ่งทั้งสองเป็นองค์ประกอบอันเป็นสัญลักษณ์จากซีรีส์ มาริโอคาร์ท
- พิซซ่า Punch-Out: พิซซีเรียในบรุกลินมีชื่อตามเกมมวยคลาสสิกของนินเทนโด Punch-Out!! เพิ่มความหลากหลายให้กับการอ้างอิงในภาพยนตร์
อีสเตอร์เอ้กส์เหล่านี้เพิ่มความสมบูรณ์ให้กับประสบการณ์การรับชม มอบความรู้สึกโหยหาอดีตและการเชื่อมโยงกับจักรวาลนินเทนโดที่กว้างขึ้นให้กับแฟนๆ
บทสรุป
เดอะ ซูเปอร์มาริโอบราเธอร์ส มูฟวี่ เป็นภาพยนตร์ที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่หรือไม่? ส่วนตัวยังคิดว่าไม่ใช่ แต่มันสามารถถ่ายทอดหัวใจและจิตวิญญาณของแฟรนไชส์เกมที่ได้รับความรักมากที่สุดเรื่องหนึ่งได้หรือไม่? แน่นอนที่สุดมันใช่! มันเป็นการผจญภัยที่เต็มไปด้วยภาพที่ตระการตาและความสนุกสนาน ที่เคารพต้นฉบับในขณะที่มอบความบันเทิงสำหรับคนทุกวัย ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนมาริโอมายาวนานหรือแค่กำลังมองหาอะไรดูเพื่อความสบายใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้มอบประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยความสุขและความโหยหาอดีตที่จะทำให้ผู้ชมยิ้มได้อย่างแน่นอน
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่มีผู้ช่วยเขียนเป็น A.I. หากเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ
