ได้ยินเพลงนี้ผ่านๆ จากการสุ่มของ Spotify แล้วมาได้อีกครั้งในหนังเรื่อง iHostage ก็เลยมานั่งหาประวัติของเพลงนี้อีกรอบ เพราะตอนแรกนึกว่าเป็นเพลงจากยุค 70s แต่พอหาข้อมูลมาแล้วอ้าวเป็นเพลงใหม่ในปี 2023 นี่เอง
Jalen N’Gonda หรือชื่อจริงว่า Jalen Putteho Ngonda เกิดประมาณปี 1994 ในรัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา เป็นนักร้องเพลงโซลและนักแต่งเพลงชาวอเมริกันที่มีเสียงและสไตล์ดนตรีเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับการเปรียบเทียบกับตำนานเพลงโซลอย่าง Marvin Gaye เลยทีเดียว ได้รับการยกย่องจากแฟนเพลงและนักวิจารณ์ว่าเป็นศิลปินที่ช่วยฟื้นฟูเสน่ห์ของดนตรีโซลคลาสสิก พร้อมกับนำเสนอมุมมองสดใหม่ให้กับผู้ฟังยุคปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นความรักในดนตรีของ Jalen เกิดขึ้นในวัยสิบเอ็ด หลังจากไปพบคอลเลกชันแผ่นเสียงของพ่อ ทั้งแนวแจ๊ส ฮิพฮอพ และโซล นั่นเลยซึมซับดนตรีหลากหลายแนวตั้งแต่เด็กทำให้พัฒนาสไตล์การร้องและแต่งเพลงที่ย้อนยุคแบบโมทาวน์ในยุค 60-70 นั่นเอง
เส้นชีวิตทางดนตรีมาเปลี่ยนไปหลังจากย้ายมาลิเวอร์พูลในปี 2014 ที่เริ่มแสดงดนตรีทั้งในสหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ จนกระทั่งในปี 2016 Jalen สามารถจัดคอนเสิร์ตที่ขายตั๋วหมดในฐานะศิลปินเดี่ยวที่ลอนดอนและเจนีวา ซิงเกิลเปิดตัวของเขาประสบความสำเร็จจนติดชาร์ตไวรัล และเขายังได้ร่วมทัวร์กับศิลปินชื่อดังอย่าง Laura Mvula, Martha Reeves และ Lauryn Hill รวมถึงได้แสดงที่เทศกาลดนตรีที่มีชื่อเสียงอย่าง Montreal Jazz Festival
อัลบั้มเปิดตัว “Come Around And Love Me” เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2023 ซึ่งรวบรวมเพลงที่แสดงความสามารถในการผสมผสานดนตรีโซลยุคคลาสสิกเข้ากับความสดใหม่ร่วมสมัย
หนึ่งในผลงานของเขา “If You Don’t Want My Love” เป็นเพลงที่มีเนื้อหาพูดถึงความสัมพันธ์ที่กำลังจะจบลงและความรู้สึกของคนที่พร้อมปล่อยให้อีกฝ่ายไป หากพวกเขาไม่ต้องการความรักอีกต่อไป
แปลเพลง If You Don’t Want My Love
In this night, a starry sky | ในค่ำคืนนี้ ใต้ฟากฟ้าแห่งดวงดารา
My baby told me with a sigh | คนรักฉันบอกฉันมาพร้อมถอนหายใจ
Saying words that came across as a doubt | กล่าวถ้อยคำที่แฝงความไม่แน่ใจ
I reassured that every day my love is strong in every place | ฉันยืนยันว่าทุกวัน ความรักของฉันแกร่งกล้าในทุกหนแห่ง
In your heart, I sho’nuff can’t live without | ในหัวใจเธอ ฉันมิอาจมีชีวิตอยู่ได้หากปราศจาก
Every mountain, every sea | ทุกขุนเขา ทุกท้องทะเล
Can never stray or burden me | ไม่อาจทำให้ฉันหลงทางหรือรู้สึกเป็นภาระ
No matter the state of space and time | ไม่ว่าสภาวะของกาลเวลาและพื้นที่จะเป็นเช่นไร
Keeps us close and keep us dear | ยังคงรักษาเราให้ใกล้ชิดและเป็นที่รักเสมอ
Not just a day, but every year | ไม่ใช่เพียงวันเดียว แต่ทุกๆ ปี
You were made to be a focus in my mind | เธอถูกสร้างมาให้เป็นจุดโฟกัสในความคิดของฉัน
But if you don’t want my love | แต่ถ้าเธอไม่ต้องการความรักของฉัน
And if you want somethin’ more | และถ้าเธอต้องการบางสิ่งที่มากกว่า
Said if you never wanted my love | บอกมาเถิดหากเธอไม่เคยต้องการความรักของฉัน
Let me know, oh | โปรดบอกให้ฉันรู้ โอ้
You’re not bound by a vow | เธอไม่ได้ถูกผูกมัดด้วยคำสาบาน
Could be tomorrow or even now | อาจเป็นพรุ่งนี้หรือแม้แต่ตอนนี้
If you want another scope to look inside | หากเธอต้องการมุมมองอื่นเพื่อมองลึกเข้าไป
I’ll be the person of your dreams, or your lover in-between | ฉันจะเป็นคนในฝันของเธอ หรือเป็นคนรักกลางใจของเธอ
Every corner in the canyons of your mind | ในทุกมุมของหุบเขาในห้วงความคิดของเธอ
But if you don’t want my love | แต่ถ้าเธอไม่ต้องการความรักของฉัน
And if you want somethin’ more, baby, baby | และถ้าเธอต้องการบางสิ่งที่มากกว่า ที่รัก ที่รัก
Said if you never wanted my love | บอกมาเถิดหากเธอไม่เคยต้องการความรักของฉัน
Let me know, let me know | โปรดบอกให้ฉันรู้ โปรดบอกให้ฉันรู้
Let, let me know | บอก บอกให้ฉันรู้
Come on, baby | เถอะนะ ที่รัก
Let me know | บอกให้ฉันรู้
Ooh, let me know | โอ้ บอกให้ฉันรู้
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่มีผู้ช่วยเขียนเป็น A.I. หากเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ