ทุกวันนี้การใช้แผนที่นำทางบนสมาร์ทโฟนน่าจะเป็นเรื่องปกติใช้ชีวิตประจำวันแล้วล่ะ แต่การขับรถไปใช้โทรศัพท์ไปนั้นเสี่ยงต่อการได้รับอุบัติเหตุบนท้องถนน จึงเกิดการพัฒนาใช้โทรศัพท์มือถือให้ใช้งานร่วมกับวิทยุรถยนต์(Head Unit)อย่าง CarPlay ของ iOS หรือ Andriod Auto บน Andriod ให้ใช้งานในการขับรถยนต์สะดวกมากขึ้น เช่น การดูแผนที่และการนำทาง, การฟังเพลง, การใช้งานโทรออกหรือรับสาย ฯลฯ
และด้วยความที่เป็นคนขับรถหลงทางอยู่ประจำ เลยจะมาแนะนำ App นำทางที่ใช้งานบน CarPlay โดยเรียงตามความชอบดังนี้ครับ
- Google Maps – ค้นหาสถานที่ง่าย แนะนำเส้นทางดี
- Sygic – เหมาะเดินทางไกล จุดอับสัญญาณมือถือ
- HERE WeGo- ออฟไลน์ได้เหมือน Sygic
- Apple Maps – การใช้งานกับ iPhone ได้ดีเช่น Siri
- Waze – หากมีคนใช้งานเยอะ จะดีเรื่องการอัพเดทการจราจรมาก
- Magic Earth – ใช้งานออฟไลน์ได้ฟรี บนพื้นฐาน OpenStreetMap
Google Maps
โปรแกรมนำทางยอดฮิต ไม่ว่าจะค่าย iOS, Andriod หรือ Windows ก็ตาม ในการค้นหาแผนที่ หรือแม้แต่ค้นเรื่องอื่นๆ ก็ตาม เรามักจะทำผ่าน Google ซึ่งการเป็น eco system ของ Google นี่เอง ทำให้มันถูกรวบรวมข้อมูลอันมหาศาลไว้ในที่เดียว จุดเด่นทำให้หาแล้วเจอเป็นส่วนใหญ่ (แม่นยำหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่อง 😅) สามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่
แต่การนำทางบางครั้งมันก็ออกอาการเอ๋อๆ บ้าง อย่างเช่นเคยไปเจอทาง 4 แยกแล้วต้องเลี้ยวขวา แต่มันไม่ได้บอกอะไร และ ถ้าไปอยู่ในจุดอับสัญญาณเมื่อไหร่ หากไม่ได้โหลดแผนที่แบบออฟไลน์ไว้ก็จะใช้งานไม่ได้เลย (แบบออฟไลน์จะเห็นแผนที่และนำทางได้ แต่การค้นหายังไงก็ต้องมีอินเตอร์เนต)
สิ่งที่ชอบ
- การค้นหาสถานที่ภายใต้ eco system ของ Google
- การจราจรอัพเดทแบบ Real Time แนะนำเส้นทางใหม่ๆ ได้
- ออกแบบดูดี เข้าใจง่าย ป้ายจราจรชัดเจน มีป้ายภาษาไทย
- วางแผนการเดินทางบนคอมพิวเตอร์หรือจากอุปกรณ์อื่นๆ สามารถ Sync มายังมือถือได้ (ภายใต้ Account เดียวกัน)
- ใช้งานได้ฟรี
- แผนที่และสถานที่ถูกอัพเดทอยู่ตลอดเวลา
- มีเข็มทิศ
สิ่งที่ขัดใจ
- การค้นหาด้วยเสียงผ่าน Head Unit มีบัค จะไม่ได้ยินเสียงเราในครั้งแรก ต้องยกเลิกแล้วค้นหาใหม่ถึงจะได้ยินเสียงเราพูด
- ลูกเล่นบนหน้าจอน้อยไปหน่อย เช่น เปลี่ยนจากลูกศรเป็นรถยนต์ หรือ ปุ่มกดค้นหาปั้มน้ำมัน
- ในประเทศไทยไม่สามารถระบุตำแหน่งไฟสัญญาณจราจร หรือ ป้ายหยุด และรวมถึงไม่มีบอกป้ายจำกัดความเร็วและความเร็วที่ใช้
- ไม่ได้แยกถนนทางลูกรัง หรือ ซอยแคบๆ ใช้งาน ตจว. อาจเจอแจ็คพอร์ทได้
- การบอกเส้นทาง บางทีก็เอ๋อๆ เช่น ไม่บอกให้เลี้ยว (พบในบางเส้นทาง)
- ต้องใช้ Internet ในการใช้งาน
- การใช้ร่วมกับ Carplay ไม่สามารถแชร์ ETA (ตำแหน่งที่กำลังจะถึง) ให้กับบุคคลอื่นได้
- สถานที่ที่ใช้บ่อยแม้จะบันทึกได้ แต่ไม่สามารถตั้งชื่อเองได้ บางสถานที่ที่บันทึกปักหมุดไว้ จะโชว์เป็นพิกัดอย่างเดียว
Sygic GPS Navigation
จุดเด่นของ Sygic ที่ชอบนอกจากสามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้แล้วก็คือ กราฟฟิคและลูกเล่นที่ดูดีกว่าแอพอื่นๆ มีป้ายจำกัดความเร็ว และ ความเร็วที่ใช้ รวมถึงมีกราฟฟิคแนะนำเลนที่ควรวิ่ง เช่น ถนน 6 เลน จะกลับรถมันจะแนะนำให้อยู่เลนขวาสุด พอถึงช่วงกลับรถก็มีเลนเพิ่มขึ้นมาให้ด้วย รวมถึงมีปั้มน้ำมันและระยะทางที่จะถึงปั้มน้ำมันขึ้นมาให้ด้วย ตรงนี้มองว่าสะดวกและดีมาก สามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่
สิ่งที่ชอบ
- แผนที่แบบออฟไลน์ ทำให้ใช้งานที่อับสัญญาณได้
- กราฟฟิคสวย ดูเข้าใจง่าย ปรับแต่ง Icon นำทางได้
- Icon ปั้มน้ำมันและระยะทางที่จะถึงปั้ม
- ป้ายจำกัดความเร็ว และ ความเร็วที่ใช้
- เตือนกล้องจับความเร็ว
- แนะนำช่องทางจราจร (Lane Guidance)
- เก็บสถานที่ที่ใช้บ่อย พร้อมตั้งชื่อได้
สิ่งที่ขัดใจ
- แม้จะมีแผนที่ Lifetime update แล้ว(ซื้อครั้งเดียว) แต่หากจะใช้งาน CarPlay ได้ครบทุกฟังก์ชั่น ต้องเสียรายเดือนเพิ่ม
- การนำทางสู้ Google Maps ไม่ได้ เหมือนจะพาอ้อมกว่านิดๆ (เน้นไปทางหลักๆ นั่นแหละ)
- การใช้งานเกิดอาการปิดตัวเองบ่อยครั้ง เจอมาตั้งแต่ยังไม่ใช้กับ CarPlay แล้ว ต้องไปปิด Backup&Restore ในเมนู ถึงจะดีขึ้น แต่บางครั้งก็ยังเจออยู่บ้าง
- การค้นหาสถานที่ยังไม่ดีพอ และไม่สามารถค้นหาผ่านเสียงได้
- Dark Mode ไม่ทำงานพร้อมไฟหรี่
- ไม่บอกทิศ
HERE WeGo
อีกหนึ่งแผนที่ที่มีมานานตั้งแต่สมัยโทรศัพท์ Nokia ถูกใช้ในวงการรถยนตร์ยุโรปหลายๆ แบรนด์ รวมถึงเป็นเทคโนโลยีที่ Garmin ใช้ร่วมกันอีกต่างหาก และ สามารถดาวน์โหลดแผนที่ใช้งานแบบออฟไลน์ได้ด้วย เหมาะสำหรับใช้งานแบบออฟไลน์เหมือน Sygic แต่ไม่ต้องจ่ายเงิน
สิ่งที่ชอบ
- ดีไซน์ออกแบบสวยงาม ดูเข้าใจง่าย เทียบกับสถานที่จริง
- มีป้ายจำกัดความเร็ว และ ความเร็วที่ใช้ พร้อมเตือน
- Shortcuts กลับบ้านอยู่หน้าแผนที่
- แผนที่แสดงตึกอาคารพร้อมชื่อและเลขที่บ้าน
- การใช้งานแบบออฟไลน์ แบ่งโหลดแผนที่แยกตามภาคได้
- บันทึกสถานที่พร้อมตั้งชื่อได้
- ใช้งานได้ฟรี
สิ่งที่ขัดใจ
- การค้นหาสถานที่ยังไม่ดีพอ และไม่สามารถค้นหาผ่านเสียงได้
- ระหว่างนำทางไม่สามารถค้นหาจุดแวะ, ปั้มน้ำมัน, การเลี่ยงทางด่วน มีแต่ให้ยกเลิกนำทาง
- ปรับแต่ง Icon ลูกศรให้เป็นรถยนต์ไม่ได้
- ไม่มีบอกเข็มทิศ
- วิ่งใต้ทางด่วนสัญญาณ GPS ระบุตำแหน่งไม่ค่อยดีเท่าใช้ Google
Apple Maps
แผนที่ที่มาพร้อมกับโทรศัพท์ iPhone ทำให้การใช้งานร่วมกันกับ CarPlay นั้นใช้งานได้เป็นอย่างดีอย่างการสั่งงานผ่าน Siri มีฟังก์ชั่นให้รายงานอุบัติเหตุและแชร์เวลาที่จะไปถึงผ่าน SMS ได้ แต่ด้วยการใช้งานแผนที่ในเมืองไทยนั้น พบว่ายังไม่ดีเท่าใช้งานในอเมริกา การนำแนะนำเส้นทางสู้ Google ไม่ได้และไม่สามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้ สามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่
สิ่งที่ชอบ
- Apple ดีไซน์
- การใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
- ค้นหาสถานที่ด้วยเสียงได้
- ส่งรายงานอุบัติเหตุ, จุดเสี่ยง, กล้องจับความเร็วได้
- แชร์ระยะเวลาการเดินทางที่จะถึงได้ (SMS)
- บอกเข็มทิศ
- บันทึกสถานที่พร้อมตั้งชื่อได้
สิ่งที่ขัดใจ
- รายละเอียดบนแผนที่น้อยเกินไป
- การค้นหาสถานที่ต่างๆ ไม่ดีพอ
- การแนะนำเส้นทาง
- ต้องใช้ Internet ในการใช้งาน ไม่มีใช้งานแบบออฟไลน์
- ไม่มีมาตรวัดบอกความเร็ว
Waze
หนึ่งใน App ที่เคยใช้บ่อยมาก เพราะเด่นในเรื่อง Community คือให้ผู้ใช้งานช่วยกันรายงานสภาพการจราจร, จุดเสี่ยง, กล้องจับความเร็ว, ด่านตำรวจ ฯลฯ นอกจากรายงานแล้ว ผู้ใช้งานยังเป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลอีกต่างหาก ซึ่งคอนเซ็ปส์ดีมาก แต่พอผู้ใช้งานในไทยน้อยลงข้อมูลต่างๆ ก็เลยน้อยลงตามไป จึงต้องพึ่งข้อมูลจากบริษัทแม่ Google อย่างเดียว ทำให้เรื่องนี้ก็ไม่ต่างจากใช้ Google Maps เลย สามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่
สิ่งที่ชอบ
- ดีไซน์ดี ออกแบบดูเหมือนเล่นเกมส์
- ค้นหาผ่านเสียงได้
- แบ่งหมวดค้นหาไว้ละเอียดกว่าแอพอื่น
- ป้ายบอกทางละเอียดดี มีบอกช่องจราจร
- มีป้ายจำกัดความเร็ว และ ความเร็วที่ใช้
- ปุ่มทางลัดเพื่อเข้าไปรายงานอุบัติเหตุและอื่นๆ
- ใช้งานได้ฟรี
- บันทึกสถานที่พร้อมตั้งชื่อได้
สิ่งที่ขัดใจ
- ผู้ใช้งานน้อย ทำให้รายงานต่างๆ น้อยลงไป
- การค้นหาสถานที่ยังไม่ดีเท่า Google Maps
- ดีไซน์เส้นทางดูเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับขนาดจอ
- น่าจะมีทางลัดปั้มน้ำมันอยู่หน้าแรก
- ต้องใช้ Internet ในการใช้งาน ไม่มีใช้งานแบบออฟไลน์
- ฟังก์ชั่นที่เยอะเกินไป อาจทำให้เสียสมาธิได้
Magic Earth
อันนี้ยังใช้ไม่ได้นานเท่าไหร่ แต่ที่รู้มาใช้พื้นฐานของ OpenStreetMap ซึ่งฟรีและจะถูกอัพเดทอยู่เสมอ ออกแบบหน้าตาดูเข้าใจง่ายแอบรู้สึกเหมือนใช้แผนที่นำทางเถื่อนสิบกว่าปีก่อนอย่าง iGO บน GPS จีนเลยครับ แต่คิดว่าเป็น App ที่น่าสนใจไว้ใช้งานออฟไลน์อีกอันนึง ดูเสถียรและเร็วอยู่เหมือนกัน สามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่
สิ่งที่ชอบ
- ใช้งานได้ฟรี และ อัพเดทฟรี
- การใช้งานแบบออฟไลน์ แบ่งโหลดแผนที่แยกตามภาคได้
- ออกแบบมาดูง่าย ชัดเจน โดยเฉพาะลูกศรนำทาง
- แนะนำช่องทางจราจร (Lane Guidance)
- POI สวยงามแสดงโลโก้ชัดเจน รวมถึงไฟสัญญาณจราจร
- มีป้ายจำกัดความเร็ว และ ความเร็วที่ใช้ เตือนกล้องจับความเร็ว
- แสดงความหนาแน่นของการจราจร
- แสดงสถานะแบตเตอรี่ของโทรศัพท์
- บันทึกสถานที่พร้อมตั้งชื่อได้
- รองรับการใช้งานผ่าน Siri
- ใช้งานแบบ 3D ได้
สิ่งที่ขัดใจ
- การนำทางยังพาอ้อมๆ อยู่ เน้นเส้นทางหลัก
- การค้นหาสถานที่ยังไม่ดีเท่า Google Maps
- ปรับแต่ง Icon ลูกศรให้เป็นรถยนต์ไม่ได้
- ไม่มีระบบ Login ทำให้การตั้งค่าต่างๆ เช่น สถานที่ที่บันทึกไว้ต้องทำใหม่หากเปลี่ยนอุปกรณ์
สรุปส่งท้าย
ก็แนะนำประมาณนี้นะครับ ทุก App มันมีข้อดีข้อเสียในการใช้งาน หลังจากอ่านแล้วลองเทียบกับความต้องการใช้งานของแต่ละบุคคลดูอีกที การใช้งานส่วนตัวไม่ได้เปิดเสียงในการนำทางเท่าไหร่จะเปิดแค่เฉพาะเตือนเท่านั้นเลยขอข้ามการพูดถึงส่วนนี้ไป และการใช้งาน CarPlay ให้ลื่นไหลนั้นไม่ได้อยู่ที่วิทยุ(Head Unit)อย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับสเปค iPhone เป็นหลัก ตัววิทยุเองเป็นการสะท้อนออกไป วันนึงเราอัพเกรดโทรศัพท์ (เครื่องใหม่ หรือ iOS เวอร์ชั่นใหม่) เราก็สามารถใช้ CarPlay ได้ดีขึ้นตามไปด้วยครับ
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ