ARRIVAL ชื่อไทย “ผู้มาเยือน” รีบดูใน NETFLIX เพราะว่า 31 มี.ค. 66 นี้ก็จะถูกถอดออกแล้ว ไม่รู้ว่าจะมาอีกเมื่อไหร่ และเคยดูแค่ครั้งเดียวเมื่อตอนหนังออกฉายในปี 2016/2559 เรื่องนี้ภาพยนตร์แนวไซ-ไฟผสมดราม่าและความลึกลับ กำกับโดย Denis Villeneuve ซึ่งสร้างจากเรื่องสั้น “Story of Your Life” ของ Ted Chiang ซึ่งหนังพยายามเล่าถึงการสื่อสาร ภาษา และความเข้าใจระหว่างผู้มาเยือนต่างสายพันธุ์ ซึ่งในทีนี้ก็คือมนุษย์ต่างดาว ตัวเอกของเรื่อง Louise Banks เป็นศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ได้รับคัดเลือกจากกองทัพสหรัฐฯ ให้ช่วยถอดรหัสภาษาของมนุษย์ต่างดาวที่ลงมายังโลกว่าพวกเค้ามาเยือนนั้น มีจุดประสงค์อะไร?
หนึ่งในข้อความสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ต้องการสื่อสารแก่คนดูคือเรื่องของอุปสรรคในการสื่อสารระหว่างมนุษย์ต่างดาว ที่ในภาพยนตร์ที่เรียกว่า “เฮปตาพอด” (heptapod) ที่มีภาษาเฉพาะของตัวเอง เป็นผลให้การสื่อสารกลายเป็นความท้าทายที่สำคัญ หลุยส์ แบงส์ (รับบทโดยเอมี อดัมส์) ได้รับมอบหมายให้ตีความภาษาของเฮปตาพอดและหาคำตอบว่าเหตุใดพวกมันจึงมายังโลก
อีกอย่างหนึ่งที่ภาพยนตร์สื่อสารแก่คนดูคือ นโยบายระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตัวแทนของระบบการเมืองในประเทศอย่างมีนัยยะสำคัญ การแสดงให้เห็นแนวทางที่แตกต่างกันในการจัดการกับการปรากฏตัวของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งจีนสงสัยว่าการมาเยือนของเหล่าเอเลี่ยนอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ จำเป็นต้องใช้กำลังในการจัดการ ในทางตรงกันข้าม ฝั่งอเมริกันใช้วิธีการที่เปิดกว้างกว่าและพยายามติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวมากกว่าที่คิดทำลายล้างอย่างอดทน ความแตกต่างทางอุดมการณ์นี้นำไปสู่ความตึงเครียดและความขัดแย้งระหว่างสองขั้วอำนาจ
หนึ่งในคำถามหลักที่ภาพยนตร์ตั้งขึ้นคือ จุดประสงค์ของการมาถึงของมนุษย์ต่างดาว ขณะที่หลุยส์ แบงส์พยายามถอดรหัสภาษาของเฮปตาพอด เธอก็ค้นพบว่าความตั้งใจของพวกเขาคือการมอบของขวัญให้กับมนุษยชาติในรูปแบบของมุมมองใหม่ของเวลา การมาถึงของมนุษย์ต่างดาวทำให้มนุษยชาติตั้งคำถามถึงความเข้าใจเกี่ยวกับเวลาและมันสร้างโลกทัศน์ของเราอย่างไร
ในช่วงไคลแมกซ์ของภาพยนตร์ หลุยส์ได้ติดต่อกับนายพลชางผู้นำกองทัพจีน ฟังถึงข้อความสุดท้ายที่เฮปตาพอดส่งให้เธอ ข้อความนั้นคือ “ในสงคราม ไม่มีผู้ชนะ มีแต่หญิงม่าย” (In war, there are no winners, only widows.) ข้อความนี้ทำให้นายพลชางฉุกคิดและยกเลิกการใช้กำลังทางทหารกับมนุษย์ต่างดาว ที่ในอนาคตข้างหน้ามนุษย์ต่างดาวที่มีความก้าวหน้าทางอารยะธรรมและเทคโนโลยีแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วเค้าก็ยังต้องพึ่งพามนุษย์ หากมนุษย์ยังสื่อสารกันไม่เข้าใจ ขาดความสามัคคีมุ่งแต่ทำลายล้างกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายมนุษย์นั้นเองก็คงจะสูญพันธุ์ การข้ามเวลามาเตือนและช่วยให้มนุษย์ตระหนักถึงการอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจนั้น ถือว่าเป็นผล non-zero-sum game หรือ win-win คือมนุษย์ไม่สูญพันธุ์และมนุษย์ต่างดาวก็ได้รับผลประโยชน์ในการคงอยู่มนุษยชาติ
แม้หนังเรื่องนี้การดำเนินเรื่องค่อนข้างเอื่อยๆ ไม่มีความตื่นเต้นของแอคชั่น แต่ว่าความตื่นเต้นของหนังเรื่องนี้ก็คือการค่อยๆ เข้าถึงปมที่รอวันถูกเฉลย ซึ่งมองว่าค่อนข้างทำได้อย่างดี หนังเอื่อยแต่ไม่น่าเบื่อแต่อย่างใด
ตัวอย่างภาพยนตร์ Arrival
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่ถ้าเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ