Ad Vitam : ปฏิบัติการเพื่อชีวิต หนังแอ็คชั่นที่มากับคอนเซ็ปต์น่าสนใจ แต่กลับขาดความลึกซึ้งในเนื้อหาและตัวละคร ผลงานของผู้กำกับ Rodolphe Lauga นี้เล่าถึงการต่อสู้เพื่อปกป้องครอบครัวของอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษ GIGN (Groupe d’intervention de la Gendarmerie nationale) ท่ามกลางฉากแอ็คชั่นสุดระทึกที่ถ่ายทำในสถานที่อันโดดเด่นในฝรั่งเศส เช่น ปารีสและพระราชวังแวร์ซาย
เนื้อเรื่อง (มีสปอยล์)
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ แฟร้งค์ – Franck (แสดงโดย Guillaume Canet) อดีตสมาชิกหน่วย GIGN ถูกลอบฆ่าในที่ทำงาน แต่เขารอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด เมื่อกลับถึงบ้าน เขาต้องเผชิญปัญหาต่ออีก เมื่อกลุ่มคนร้ายที่บุกเข้ามาเพื่อจับตัว ลีโอ – Léo (Stéphane Caillard) ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ของเขาไป
จากนั้นก็ผ่านการเล่าย้อนอดีต ทำให้เราได้รู้ว่า Franck และ Léo พบรักกันระหว่างการฝึกในหน่วย GIGN แม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะมีความเสี่ยงจากอาชีพที่อันตราย จนกระทั่ง Franck ตัดสินใจผิดพลาดในภารกิจสำคัญ ส่งผลให้เพื่อนร่วมทีมเสียชีวิต ทำให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่ง ชีวิตของเขาต้องพังทลาย และปัจจุบันเขาต้องกลับมาแก้ปมในอดีต พร้อมช่วยชีวิตภรรยาที่ถูกลักพาตัว แต่เมื่อสืบเรื่องราวไปเรื่อยๆ ก็พบว่ารัฐบาลฝรั่งเศสต้องการเก็บหลักฐานที่ดันไปพลาดมีเรื่องกับ CIA ของสหรัฐฯ เมื่อหลักฐานสำคัญ Franck เป็นคนถือไว้ นั่นเลยถึงรู้กันว่ารัฐบาลต้องการปิดปากนั่นเอง
ใจความสำคัญของเรื่องก็เพียงเท่านี้
แม้ว่าจะมีฉากแอ็คชั่นที่สร้างความตื่นเต้นในหลายๆ ช่วง แต่เนื้อเรื่องกลับดูไม่เชื่อมโยงกันอย่างลงตัว บทภาพยนตร์ที่เขียนโดย Lauga, Canet และ David Corona ดูเหมือนจะเน้นฉากย้อนหลังหรือ Flashback ในการปูความสัมพันธ์ของตัวละครมากเกินไป ดูๆ ไปก็คล้ายๆ อารมณ์ฉากสร้างความสัมพันธ์ของ TOP GUN (1986) และ Top Gun: Maverick (2022) อย่างบอกไม่ถูก รวมถึงจุดหักเหต่างๆ ของเนื้อเรื่องและสิ่งที่ตัวร้ายต้องการนั้น ปูเรื่องออกมาได้เบาบางมาก
ตัวละคร Léo ซึ่งถูกปูพื้นฐานว่าเป็นนักสู้ที่มีความสามารถ แต่ในภาพรวมกลับถูกลดบทบาทให้เป็นเพียง “เหยื่อ” ที่รอการช่วยเหลือ ขณะที่ Franck แม้จะเป็นตัวเอก แต่ Guillaume Canet ไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ที่เข้มข้นได้มากพอเมื่อเทียบกับนักแสดงในหนังแอ็คชั่นระดับตำนาน เช่น Liam Neeson หรือ Jason Statham ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ในการฝ่าฟันเอาตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนที่รัก
ฉากแอ็คชั่น: จุดเด่นที่กลายเป็นจุดด้อย
แม้การถ่ายทำในสถานที่สำคัญ เช่น พระราชวังแวร์ซาย จะช่วยเพิ่มความยิ่งใหญ่ให้กับหนัง แต่บางฉากกลับดูเหนือจริงเกินไป เช่น ฉากที่ Franck ใช้เครื่องร่อนหนีคนร้ายในจังหวะ “เป๊ะเกินจริง” สิ่งเหล่านี้ทำให้หนังดูเหมือนการ์ตูนแอ็คชั่นมากกว่าหนังระทึกขวัญที่ต้องการความสมจริง แต่นั่นในช่วงท้ายจนไปจบการไล่ล่าก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ที่ทำออกมา
บทสรุป
Ad Vitam เป็นหนังที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบฉากแอ็คชั่นโดยไม่คาดหวังเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนหรือการแสดงที่กินใจ แม้ชื่อเรื่องจะหมายถึง “เพื่อชีวิต” แต่หนังกลับขาดพลังที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันหรือจดจำได้ยาวนาน สุดท้ายแล้ว หนังเรื่องนี้อาจเป็นเพียงตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการฆ่าเวลา แต่ไม่ใช่ผลงานที่จะถูกพูดถึงในฐานะหนังแอ็คชั่นระดับตำนานอย่างแน่นอน
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่มีผู้ช่วยเขียนเป็น A.I. หากเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ
